สรุปงบล่าสุด TRV

บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ TRV ปี 2567: ฟื้นตัวจากบริษัทย่อย แต่ยางยังเผชิญความท้าทาย
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TRV) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยอ้างอิงจากรายงานคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (Management Discussion and Analysis: MD&A) ฉบับลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
TRV รายงานรายได้จากการขายรวม 495.27 ล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 328.28 ล้านบาท หรือ 196.60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตนี้มีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากบริษัทย่อย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากโครงการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของกรมชลประทาน
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
แม้รายงาน MD&A จะไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียด แต่มีการระบุถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ดีนัก ความผันผวนของตลาดการเงินจากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อาจส่งผลให้เกิดการชะลอการใช้จ่าย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ยางของบริษัท
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้:** รายได้จากการขายรวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางขึ้นรูปลดลง 32.72 ล้านบาท หรือ 19.75% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมียอดขายลดลงในกลุ่มชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
* **ต้นทุนขาย:** ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 324.49 ล้านบาท หรือ 288.07% สาเหตุหลักมาจากการต้นทุนการซื้อสินค้าของบริษัทย่อย
* **กำไรขั้นต้น:** กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 3.80 ล้านบาท หรือ 6.99% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากบริษัทย่อย
* **ค่าใช้จ่ายในการขาย:** เพิ่มขึ้น 2.22 ล้านบาท หรือ 20.96% เนื่องจากการจ้างบุคลากรชาวญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มช่องทางการหาลูกค้ารายใหม่ และค่ารับรองสำหรับทีมการตลาดในการหาลูกค้าเพิ่ม
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** เพิ่มขึ้น 0.54 ล้านบาท หรือ 1.80% เนื่องจากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของลูกหนี้การค้า
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิอยู่ที่ 11.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.31 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยอดขายของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 5.17 ล้านบาท หรือ 1.06% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเนื่องจากบริษัทย่อยได้รับการชำระเงินจากกรมชลประทาน
* **หนี้สินรวม:** ลดลง 5.91 ล้านบาท หรือ 14.54% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงินระหว่างปี
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้น 11.08 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากกำไรสุทธิระหว่างรอบระยะเวลา
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
รายงาน MD&A ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระแสเงินสดโดยตรง อย่างไรก็ตาม สามารถอนุมานได้ว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกเนื่องจากบริษัทย่อยได้รับการชำระเงินจากกรมชลประทาน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ปัจจัยความเสี่ยง:** รายงานระบุถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ความผันผวนของตลาดการเงิน และปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจ
* **โอกาส:** โอกาสในการเติบโตหลักมาจากโครงการของภาครัฐ เช่น โครงการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสในการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มยาง
**7. สรุป:**
TRV มีผลประกอบการที่ฟื้นตัวในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของบริษัทย่อย อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรจากสินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง บริษัทมีการจัดการความเสี่ยงโดยการลดหนี้สินและเพิ่มเงินสดสำรอง
**ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขสำคัญ:**
* **รายได้จากบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น:** ส่งผลให้รายได้รวมและกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
* **ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น:** กดดันอัตรากำไรขั้นต้น
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น:** ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ
* **การลดหนี้สิน:** ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินและเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน
โดยรวมแล้ว TRV มีผลประกอบการที่ผสมผสาน โดยมีการเติบโตในบางส่วนแต่ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า การจัดการความเสี่ยงและคว้าโอกาสในการเติบโตจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต
(6.02%)
(19.94%)
(8.75%)
(36.66%)
(2.93%)
(20.90%)
(5.70%)
(7.57%)
(0.00%)
(367.38%)
(102.81%)
(169.74%)