สรุปงบล่าสุด TPAC
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ บมจ. พลาสติค และหีบห่อไทย (TPAC) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
รายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 1,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% QoQ และ 22% YoY ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรสุทธิมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและอัตรากำไรที่ดีขึ้นในหลายประเทศ (หน้า 4, 7, 9)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
เอกสารไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม แต่มีการอธิบายถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในแต่ละภูมิภาค เช่น ปัญหาด้านการขนส่งจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายในประเทศไทย (หน้า 9) และการลดลงของคำสั่งซื้อในช่วงฤดูร้อนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (หน้า 10) นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ในเขต SAIF Zone ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต (หน้า 10)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้:** ลดลง 7% YoY เนื่องจากกลไกการตั้งราคาขายของสินค้าผันผวนตามราคาเม็ดพลาสติก (หน้า 7)
* **กำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษี และค่าเสื่อมราคา (Core EBITDA):** เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 13% QoQ (หน้า 4, 7)
* **กำไรต่อหุ้น (Core EPS):** เพิ่มขึ้น 22% YoY และ 37% QoQ (หน้า 4, 7)
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** เพิ่มขึ้นจาก 23.0% ในไตรมาส 2 ปี 2568 เป็น 24.1% ในไตรมาส 3 ปี 2568 (หน้า 9)
* **สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง:** การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ, การเพิ่มมูลค่าในกระบวนการผลิต (value addition), และการฟื้นตัวของตลาดส่งออกในอินเดีย (หน้า 9, 10)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ลดลง 7% จาก 7,609 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 7,108 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 (หน้า 12, 16)
* **อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity):** ลดลงจาก 1.07 เท่า ณ สิ้นปี 2567 เป็น 0.95 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 แสดงถึงการลดภาระหนี้อย่างต่อเนื่อง (deleveraging) (หน้า 4, 7, 12)
* **เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ (Net Working Capital):** อยู่ที่ประมาณ 1.48 พันล้านบาท คิดเป็น 22% ของรายได้ย้อนหลัง 12 เดือน (LTM Revenue) สะท้อนถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง (หน้า 12)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* **ภาพรวมธุรกิจในแต่ละประเทศ:**
* **ประเทศไทย:** ผลการดำเนินงานดีขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและ Core EBITDA ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (หน้า 9)
* **อินเดีย:** ปริมาณการขายทรงตัว แต่ความสามารถในการทำกำไรลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ยอดขายและความสามารถในการทำกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (หน้า 10)
* **สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE):** ยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ Core EBITDA ยังคงทรงตัวได้ดี (หน้า 10)
* **มาเลเซีย:** ทั้งยอดขายและ Core EBITDA ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส (หน้า 10)
* **ฟิลิปปินส์:** มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการผลิตจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าหลัก (หน้า 11)
* **การลงทุน:** มีการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่, แม่พิมพ์ และชิ้นส่วนเสริม เพื่อการขยายกำลังการผลิต โดยหลักในประเทศไทย และอินเดีย (หน้า 13)
* **ความยั่งยืน:** ธุรกิจในมาเลเซียได้รับการยกย่องจากสหพันธ์ผู้ผลิตมาเลเซีย (FMM) สำหรับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน (Sustainability Commitment) (หน้า 11)
(0.35%)
(7.51%)
(5.08%)
(1.24%)
(4.71%)
(9.43%)
(2.88%)
(9.13%)
(37.32%)
(22.36%)
(7.23%)
(29.56%)