สรุปงบล่าสุด TOPP

บริษัท ไทย โอ.พี.พี. จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บมจ. ไทย โอ.พี.พี. (TOPP) ปี 2567
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บมจ. ไทย โอ.พี.พี. (TOPP) ประจำปี 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 110.90 ล้านบาท ลดลง 1.36 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 112.26 ล้านบาท
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในช่วงปี 2567 ในเอกสารที่ให้มา)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **กำไรขั้นต้น:** บริษัทมีกำไรขั้นต้นรวม 213.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน
* **ส่วนงานฟิล์มพลาสติก:** กำไรขั้นต้น 113.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 เนื่องจากการควบคุมต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบได้ดีขึ้น
* **ส่วนงานสติกเกอร์:** กำไรขั้นต้น 86.55 ล้านบาท ลดลง 0.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.8 เนื่องจากมียอดขายบางส่วนที่ใช้ต้นทุนวัตถุดิบราคาสูง
* **ส่วนงานหลอด:** กำไรขั้นต้น 13.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 154.5 เนื่องจากการหาวัตถุดิบทดแทนในราคาที่ต่ำลงได้
* **รายได้อื่นๆ:** รายได้อื่นๆ 31.48 ล้านบาท ลดลง 4.49 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ค่านายหน้าจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซล่าร์เซลล์ลดลง และดอกเบี้ยรับลดลง
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 8.45 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายพนักงาน, ค่าวิจัยและพัฒนา และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
* **ผลขาดทุน (กำไร) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน:** มีกำไร 3.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.88 ล้านบาท จากปีก่อน
* **ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากการร่วมค้าและบริษัทร่วม:** ส่วนแบ่งกำไร 12.87 ล้านบาท ลดลง 3.12 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทร่วมทุนลดลง
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์และหนี้สินในเอกสารที่ให้มา)
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดในเอกสารที่ให้มา)
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในเอกสารที่ให้มา)
**7. สรุปสั้นท้ายสุด:**
โดยสรุป แม้ว่ากำไรสุทธิของ TOPP ในปี 2567 จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่บริษัทสามารถเพิ่มกำไรขั้นต้นได้จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นในส่วนงานฟิล์มพลาสติกและการหาวัตถุดิบทดแทนในส่วนงานหลอด อย่างไรก็ตาม การลดลงของรายได้อื่นๆ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิโดยรวมลดลง
เอกสารที่ให้มาไม่ได้ระบุถึงกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงและโอกาสของบริษัทในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต ดังนั้น การวิเคราะห์เชิงลึกในส่วนนี้จึงไม่สามารถทำได้จากข้อมูลที่มีอยู่
**ข้อจำกัด:**
การวิเคราะห์นี้อ้างอิงจากข้อมูลที่จำกัดที่ให้มาเท่านั้น การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้นจำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินทรัพย์ หนี้สิน กระแสเงินสด ปัจจัยความเสี่ยง และโอกาสในการลงทุนของบริษัท
(1.45%)
(12.95%)
(10.17%)
(0.33%)
(11.50%)
(11.79%)
(5.00%)
(4.11%)
(12.43%)
(4.62%)
(1,002.39%)
(159.47%)