สรุปงบล่าสุด TNPC
บริษัท ไทยนามพลาสติกส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท ไทยนามพลาสติกส์ จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 3/2567
บริษัท ไทยนามพลาสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNPC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 มีผลขาดทุนสุทธิ 42.01 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31.37 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายลดลง 14.49% เนื่องจากลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบยังคงสูง ส่งผลให้ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 7.08% ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 13.53% โดยส่วนใหญ่เกิดจากสวัสดิการพนักงาน
บริษัทฯ มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทฯ คาดการณ์ว่าในปี 2568 รายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาด
**จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด และการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง** TNPC มี P/E เท่ากับ 359.02 ซึ่งสะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนที่สูงมาก แต่อัตรากำไรสุทธิและเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานยังคงไม่น่าประทับใจ D/E อยู่ในระดับ 1.38 แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีภาระหนี้สินค่อนข้างสูง หากบริษัทฯ ต้องการกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจ การกู้เงินอาจเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ วงจรเงินสด (153.68 วัน) ยังคงสูง สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารเงินสดที่ยังไม่ดี
**โอกาส**
- TNPC มีโอกาสเติบโตจากตลาดยานยนต์ไฟฟ้า
- บริษัทฯ มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- บริษัทฯ มีโอกาสขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
**ความเสี่ยง**
- ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย
- ต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อกำไร
- การแข่งขันในตลาดที่รุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด
**TNPC อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล** เนื่องจาก YIELD น้อยกว่า 4% และผลประกอบการในปีที่ผ่านมายังไม่น่าประทับใจ **นักลงทุนที่สนใจ TNPC อาจเป็นนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ** จากการปรับกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
(11.79%)
(17.99%)
(164.56%)
(48.06%)
(136.52%)
(36.63%)
(1.14%)
(9.74%)
(47.28%)
(233.92%)
(71.82%)
(440.56%)