สรุปงบล่าสุด TNP

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) (TNP) ปี 2567: เติบโตแข็งแกร่งจากการขยายสาขาและบริหารต้นทุน
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567:**
TNP สามารถสร้างการเติบโตที่น่าประทับใจในปี 2567 โดยมี**รายได้รวมอยู่ที่ 2,872.57 ล้านบาท** เพิ่มขึ้น 9.92% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้มาจากการ**ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง** โดยในปี 2567 TNP ได้เปิดสาขาใหม่ถึง 5 สาขา ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 50 สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถ**ทำกำไรสุทธิได้ถึง 185.54 ล้านบาท** เพิ่มขึ้นถึง 19.30% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย
**วิเคราะห์รายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** เพิ่มขึ้น 9.92% จากการขยายสาขา (7.4%) และยอดขายจากสำนักงานใหญ่และตัวแทนจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น (9.9%) รวมถึงยอดขายจากสาขาเดิมที่เติบโต 1.8%
* **ต้นทุนขาย:** เพิ่มขึ้น 8.96% แต่สัดส่วนต้นทุนขายต่อรายได้ลดลงเล็กน้อย (0.73%) มาอยู่ที่ 82.44% แสดงให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2566
* **กำไรขั้นต้น:** เพิ่มขึ้นถึง 14.65% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.56% ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการปรับตัวของราคาสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์
* **ค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและบริหาร:** เพิ่มขึ้น 10.35% เป็นผลมาจากการขยายสาขา ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ค่าเสื่อมราคา และค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังบันทึกค่าใช้จ่ายสินค้าเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยจำนวน 2.64 ล้านบาท
* **กำไรสุทธิ:** เพิ่มขึ้น 19.30% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.41% ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างชัดเจน แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของบริษัท
**สถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบ:**
แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะมีความผันผวน แต่ TNP สามารถปรับตัวและบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน อาจมีผลกระทบต่อต้นทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ TNP สามารถรักษายอดขายและกำไรไว้ได้ โดยการขยายสาขาไปยังทำเลที่มีศักยภาพ การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และการควบคุมค่าใช้จ่าย
**ฐานะทางการเงิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 11.39% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสด สินค้าคงเหลือ และที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสาขา
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 13.63% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้า
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** คำนวณได้ประมาณ 0.31 ซึ่งแสดงว่า TNP มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี และมีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ
**กระแสเงินสด:**
ข้อมูลกระแสเงินสดไม่ได้ถูกระบุไว้ในเอกสารที่ให้มา หากมีข้อมูลส่วนนี้ จะสามารถวิเคราะห์ถึงแหล่งที่มาและการใช้ไปของเงินสดของบริษัทได้อย่างละเอียดมากขึ้น
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส:**
* **ความเสี่ยง:** การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และความผันผวนของเศรษฐกิจ
* **โอกาส:** การขยายสาขาไปยังทำเลที่มีศักยภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
* **พัฒนาการสำคัญ:** การเปิดสาขาใหม่ 5 สาขา การลงทุนในคลังสินค้า และการได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย
**แนวโน้มอนาคต:**
TNP มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายสาขา การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การลงทุนใน TNP จึงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
**สรุปความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ:**
รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาและยอดขายที่เติบโต ส่งผลให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ต่ำแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำไรของ TNP ในช่วงรายงาน
**โดยรวมแล้ว TNP สามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีของบริษัท นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน**
(0.79%)
(5.33%)
(5.66%)
(11.89%)
(4.83%)
(6.25%)
(5.96%)
(16.66%)
(7.18%)
(6.62%)
(60.71%)
(40.78%)