สรุป OPPDAY หุ้น TNL

บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday TNL: เจาะลึกผลประกอบการปี 2024 และกลยุทธ์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
สรุปผลประกอบการปีงบประมาณ 2024 ของบริษัท TNL ซึ่งมีการรายงานผลประกอบการและกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมนำเสนอข้อมูล
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในช่วงปีที่ผ่านมา TNL มี Key Development หลักๆ 6 อย่างที่เกี่ยวข้องกัน:
- มติการประชุมผู้ถือหุ้น ATM ของรอบปี 2023: มีการอนุมัติการจ่ายปันผลที่ 0.3 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายไปแล้วในเดือนพฤษภาคม
- อนุมัติการขายบริษัท TNLX: ซึ่งเป็นบริษัทดั้งเดิมของ TNL ให้กับเครือสหพัฒน์ เป็นเงิน 670 ล้านบาท โดยธุรกรรมเสร็จสิ้นในปลายเดือนกรกฎาคม
- การเปลี่ยนแปลงวิธีการนำเสนอของงบการเงิน: เนื่องจากการขายธุรกิจ TNLX ทำให้ต้อง reclassify ผลการดำเนินงานและ balance sheet item เพื่อให้สอดคล้องกับการถือครองธุรกิจแบบ held for sale
- การย้ายกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจ: TNL ได้ย้ายไปอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงิน และหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์
- การขายรัชดา Alliance ให้กับ Noble: ภายใต้เงื่อนไขการร่วมทุน (JV) โดยโครงการ New รัชดาราชพร้าวได้รับการตอบรับที่ดี
- การได้รับการจัดอันดับธรรมาภิบาลองค์กร (CG Rating): จากสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) ในระดับ 5 ดาวดีเลิศ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
- การจัดตั้งบริษัทใหม่ในเครือ: ชื่อ Oxygen Advisory ด้วยเงินจดทะเบียน 10 ล้านบาท เพื่อให้คำปรึกษาทางการเงินและการปรับโครงสร้างหนี้
TNL ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน และได้บูรณาการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าในกลยุทธ์ขององค์กร
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
TNL มุ่งเน้นไปที่ New Growth Engines ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจการเงินและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมี Capital อยู่ที่บริษัท Holding และบริษัทลูกต้องแข่งขันกันสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า
โครงสร้างธุรกิจแบบนี้ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และกระจายความเสี่ยงไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงหลักที่ TNL กำลังเผชิญอยู่คือความผันผวนของเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการจัดเก็บหนี้ โดยเฉพาะในส่วนของ Retail segment
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยเน้นการเจรจากับลูกหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ การเร่งกระบวนการขายทอดตลาด และการเปลี่ยนไปโฟกัสที่ Corporate NPL มากขึ้น
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
บริษัทคาดการณ์ว่าปี 2024 จะเป็นปี bottom ของเราในเชิง Asset Quality และปี 2025 คุณภาพของ Portfolio จะดีขึ้น
TNL ตั้งเป้าที่จะเติบโตแบบ Two Digits โดยมี Net Profit Margin มากกว่า 30% และรักษา Leverage ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 0.5 เท่า
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 41:30]
AMC กับการเก็บหนี้ในเศรษฐกิจที่ไม่ดี
คำถาม: อยากให้ท่านผู้บริหารอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บหนี้ในธุรกิจ AMC เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี และหลายบริษัทประสบปัญหาอย่างหนัก
คำตอบ: ธุรกิจการเก็บหนี้ในปีที่แล้ว (2024) ขออนุญาตแยกเป็น 2 segment คือ Retail และ Corporate 1.Retail segment เศรษฐกิจไม่ดีมากนัก มีผลต่อการเก็บหนี้แน่นอน การเก็บหนี้ต่ำกว่าที่ตั้งใจไว้ประมาณ 15% ทั้ง industry น่าจะมีปัญหาเรื่องการเก็บหนี้กันหมด เราพยายามคุยกับลูกหนี้ เพื่อให้มีการเจรจาเทอมที่ Flexible ขึ้น สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ เร่งกระบวนการในการขายทอดตลาด เพื่อเอาทรัพย์ออกมาขายทอดให้ได้โดยเร็ว เพื่อ provide อีก solution ในการเก็บหนี้ของเรา ถึงแม้จะต่ำเป้าไปประมาณ 15% แต่เราก็ปรับเปลี่ยน Strategy ให้ Flexible มากขึ้น ยืดหยุ่นกับลูกหนี้ ให้สามารถชำระหนี้ได้ และอาจจะมีการ Term out maturity ออกไปมากขึ้น รวมถึงเร่งกระบวนการขายทอดตลาด 2. Corporate segment ในการเติมพอร์ต ฝั่ง NPL ไป Focus ทางฝั่ง Corporate มากขึ้น อย่างที่นำเสนอ 52% increase ใน Legal Balance ของเรา จะอยู่ใน Corporate NPL อย่างเดียวในปีที่แล้ว จากสภาพเศรษฐกิจแล้ว เห็นว่าลูกหนี้ฝั่ง Corporate ยังสามารถที่จะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ผ่านการทำปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์ต่างๆ ทางฝั่ง Corporate อาจจะมีศักยภาพในการไปขายทอดตลาด ได้ Liquidity ที่ค่อนข้างดีกว่า เราก็เลยไปเร่งกระบวนการทางฝั่งนั้นด้วย Cash Collection ของเรา จากการที่เราปรับเปลี่ยน Strategy และเร่งกระบวนการขายทอดตลาด จะเห็นได้ว่ามี Markey Asset ของเราอันนึงที่อยู่ทางภาคใต้ ที่เป็น Beach Front ติดหาด เร่งกระบวนการได้เร็วกว่าแผนประมาณ 3 ปี ขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนที่ขายทอดตลาดที่กรมบังคับคดี ถ้าสมมุติขายทอดได้ ก็จะเป็น Cash Collection ที่ค่อนข้างสูงสำหรับบริษัทในปีนี้ แต่ถ้าสมมุติว่าไม่ได้ นอกจากเป็นที่ Site ใหญ่ เราก็จะมี Opportunity ที่ผืนนั้นมาทำ Marketing อย่าง Very Active ของเราเอง จากการทำ NPA Marketing ซึ่งคาดว่าการ Collect Cash จากการทำ NPA Marketing อาจจะส่งผลให้เรามี Gain ใน P&L มากกว่าขายทอดจากกรมบังคับคดีก็ได้
In Summary สภาพเศรษฐกิจไม่ดี มีผลต่อการเก็บหนี้แน่นอน แต่เราพยายามปรับเปลี่ยน Strategy ให้เหมาะสม ยืดหยุ่นมากขึ้น และก็เร่งกระบวนการขายทอดมากขึ้น ทำทุก Strategy เพื่อให้ได้มาซึ่ง Cash Collection ที่เหมาะสมและเร็วกว่า
การบริหารหนี้เสีย เมื่อตั้งเป้าโตพอร์ตสินเชื่อปีหน้า
คำถาม: ปีหน้าบริษัทตั้งใจที่จะโตพอร์ตสินเชื่อค่อนข้างเยอะ มีการบริหารหนี้เสียอย่างไร เพราะว่าสภาพตลาดไม่ค่อยสู้ดีนัก?
คำตอบ: Target พอร์ตของ Oxygen Asset ในปี 2025 ที่ตั้งไว้ 7,100 ล้านนี้ จริงๆ ก็เติบโตจากปี 2024 ไม่ได้เยอะมาก ปี 2024 เราก็โตขึ้นประมาณ 7-8% ในปี 2025 นี้ เราก็คิดว่าโตขึ้นถึง 10-11% ได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจนี้ ก็จะมีแนวโน้มปรับตัวที่ดีขึ้น แต่ทางบริษัทก็ยังคิดว่า อาจจะมี ความท้าทายอยู่ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายกีดกันทางการค้า หรือ Geopolitical Risk ที่ อาจจะทำให้ตลาดค่อนข้างผันผวน ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่า กนง. ล่าสุด เพิ่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 25 Basis Point ในปีนี้เราคาดว่า น่าจะ ลดได้อีก 1-2 ครั้ง ซึ่งแน่นอนตรงนี้ก็จะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ ของลูกหนี้นี้ดีขึ้น
จากปัจจัยบวกและปัจจัยลบในตลาด เราก็คาดว่าเราจะเติบโตด้วยระดับที่ 10-11% นี้ ค่อนข้างเหมาะสม และเราจะไปเน้นในเรื่องของ Credit Policy ไม่ว่าจะเป็น Selection Criteria ในการคัดกรองลูกหนี้ของเราจะมีการปรับตัว ให้เข้มข้นมากขึ้น โดยที่ผ่านมาเราก็จะเน้นลูกค้า Corporate และลูกค้าในกลุ่ม High Network นะครับ ลูกค้าเราวันนี้มีศักยภาพในการชำระหนี้ ค่อนข้างสูง
ลูกหนี้รายย่อย หรือว่าใน SME เนี่ย เราก็จะพยายามหลีกเลี่ยง หรือว่า กระบวนการทางด้าน Credit นี้ก็จะเข้มงวดกว่า ลูกค้ารายใหญ่ จาก Track Record ในปี 2024 ที่เรามี NPL สูงขึ้น ประกอบกับ เราใช้ระยะเวลาประมาณ 36 เดือนในการจัด ในการจัดการลูกหนี้เหล่านี้ ที่ผ่านมาในครึ่งปีหลังนี้ เราก็เห็น Development ที่ค่อนข้างดี แล้วก็สามารถ settle กับทางลูกหนี้ได้จำนวน 4 ราย และเมื่อต้นปีนี้เราก็ได้อีก 1 รายนะครับ ที่ลูกหนี้ก็สามารถทำ Full Repayment ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ยังเชื่อมั่นว่าการเติบโตในระดับ ที่ 11% ในปี 2025 นี้ก็ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเราทางด้าน Asset Quality เองแล้วก็มีการตั้งสำรอง อย่างระมัดระวัง มีการตั้งเผื่อ เอาไว้ด้วย เพื่อที่จะรองรับสถานการณ์ที่ ไม่แน่นอนในปีนี้ โดยสรุปแล้วเราคาดว่าเราจะสามารถบริหารจัดการ พอร์ต ของ Oxygen Asset ได้ ตามแผนที่เราวางเอาไว้ โดยที่เราจะรักษาระดับ NPL ให้ดีขึ้นด้วย
ผลกระทบหาก กนง ลดดอกเบี้ยนโยบาย
คำถาม: มีผลอย่างไรกับการที่ กนง. ประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายกับบริษัท?
คำตอบ: ฝั่ง AMC ต้องเรียนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเนี่ย ก็ส่งผลบวก ส่งผลที่ดีกับลูกหนี้เรา การลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ Interest Burden ของลูกหนี้เราน้อยลง จากการปรับโครงสร้างหนี้ ก็ดี อาจจะทำให้เขามีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น หรือเวลาต้องการซื้อทรัพย์ จากกรมบังคับคดี หรือว่าจะซื้อทรัพย์ออกจากฝั่งของ AMC เราเองก็ตาม จะได้มีภาระหนี้ดอกเบี้ยน้อยลง อาจจะส่งผลให้มีความสามารถในการกู้เพิ่มมากขึ้น ถ้าถามฝั่ง ของ AMC เนี่ย เรามองว่าเป็นปัจจัยบวกมากกว่าลบ ในในเรื่องของผลกระทบการลดดอกเบี้ย ในภาพรวมของธุรกิจ TML นะครับผมก็แน่นอน Cost Of Fund ของบริษัทนี้ก็ ลดลงทันที เนื่องจากว่า ทางโครงสร้าง โครงสร้างเงินทุนของบริษัทเนี่ยเราจะมี ภาระหนี้ที่เป็น ทางด้าน Free Flow นี้ Free Flow อยู่ประมาณ 20% เพราะฉะนั้น การที่ กนง. ลดดอกเบี้ย 25 Basis Point นี้ก็ ส่งผลกระทบโดยตรงนะครับผมทำคอย สอฟัน ของบริษัทลดลง นะครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะช่วยทำให้ นิม ที่เราปล่อยให้กับทาง Oxygen Asset เนี่ยสูงขึ้นได้นะครับผมแล้วก็ทำให้อ ของ ของพอร์ต TML ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Oxygen Asset หรือว่าธุรกิจ AMC ก็จะดีขึ้นด้วย
โดยสรุป TNL มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2024 และมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่การบริหารความเสี่ยง การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจ และการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น