สรุปงบล่าสุด TKC

บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการหุ้น TKC: ปี 2567 (อัปเดต)
บทความนี้สรุปและวิเคราะห์ผลประกอบการของ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทฯ ได้นำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 TKC มีรายได้รวม 2,448.89 ล้านบาท ลดลง 1,437.64 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.99% เมื่อเทียบกับปี 2566 กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลง 26.01 ล้านบาท หรือ 11.12% อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นจาก 6.07% เป็น 10.91%
**ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ:**
* **รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ลดลง:** ปี 2567 TKC รับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 โครงการส่วนใหญ่ในปีนี้เป็นโครงการขนาดกลางและงานบริการบำรุงรักษา
* **การรับรู้รายได้จากงานต่อเนื่อง:** บริษัทฯ รับรู้รายได้จากงานที่ดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการในปี 2566
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม:** การลงทุนในบริษัทร่วม (AIT) ในไตรมาส 4 ปี 2566 และการลงทุนเพิ่มเติมในไตรมาส 1 ปี 2567 ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
* **การปรับปรุงงบการเงินย้อนหลัง:** บริษัทฯ ได้ปรับปรุงงบการเงินย้อนหลังเพื่อจัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้มาจากการลงทุนในบริษัทร่วม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกำไรสุทธิของปี 2566 ลดลง
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในรายงานนี้)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากงานโครงการ:** ลดลง 44.84% เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่มีจำนวนน้อยกว่าปี 2566
* **รายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา:** เพิ่มขึ้น 23.29% เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานบริการและงานโครงการที่เกิดขึ้นในปี 2567
* **รายได้จากการขาย:** ลดลง 84.51% เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในโครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนในปี 2566 มีจำนวนมาก
* **ต้นทุนจากการขายและบริการ:** ลดลง 39.31% ซึ่งมากกว่าอัตราการลดลงของรายได้ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนในงานบริการและบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* **ค่าใช้จ่ายในการขาย:** เพิ่มขึ้น 23.73% เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** ลดลง 5.06%
* **ต้นทุนทางการเงิน:** เพิ่มขึ้น 82.99% เนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายจากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการต่างๆ
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม:** เพิ่มขึ้นอย่างมาก (4,432.69%) จากการลงทุนใน AIT
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** เพิ่มขึ้น 5.64% เป็น 5,515.60 ล้านบาท
* เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นจากการรับเงินกู้
* ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นเพิ่มขึ้นเนื่องจากการออกใบแจ้งหนี้
* ลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงินลดลง
* สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญาลดลงเนื่องจากงานโครงการเสร็จสิ้น
* เงินฝากธนาคารที่ติดภาระค้ำประกันลดลง
* เงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในหุ้นสามัญ
* **หนี้สินรวม:** เพิ่มขึ้น 11.08% เป็น 1,455.65 ล้านบาท
* เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นจากการใช้วงเงินสินเชื่อ
* เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้น 3.81% เป็น 4,059.95 ล้านบาท เนื่องจากการมีกำไรจากการดำเนินงาน แต่มีการจ่ายเงินปันผล
**ความเหมาะสมของโครงสร้างเงินทุน:**
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 TKC มี **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เท่ากับ 0.36 เท่า** ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.34 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของหนี้สิน (145.23 ล้านบาท) ยังคงสมดุลกับการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้ถือหุ้น (149.18 ล้านบาท) ซึ่งบ่งชี้ว่าโครงสร้างเงินทุนของ TKC ยังคงมีความเหมาะสมและมีความแข็งแกร่ง
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดในรายงานนี้)
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในรายงานนี้)
**7. สรุปสั้นท้ายสุด:**
TKC มีรายได้รวมลดลงในปี 2567 เนื่องจากรายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิให้ดีขึ้นได้จากการบริหารจัดการต้นทุนและการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต่ำ และโครงสร้างเงินทุนยังคงมีความเหมาะสม
**ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกำไร:**
* **การลดลงของรายได้จากงานโครงการ:** เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้รวมลดลง
* **การบริหารจัดการต้นทุน:** ช่วยให้บริษัทฯ รักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม:** เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ
**กลยุทธ์ของบริษัทฯ:**
แม้จะไม่มีข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในรายงานนี้ แต่จากผลประกอบการ เราสามารถอนุมานได้ว่า TKC กำลังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน การขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และการรักษาฐานลูกค้าในงานบริการและบำรุงรักษา
**โดยรวมแล้ว TKC ยังคงเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว แม้ว่าผลประกอบการในปี 2567 จะไม่สูงเท่าปี 2566 นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น TKC**
(85.64%)
(89.53%)
(36.78%)
(22.96%)
(852.49%)
(635.54%)
(164.46%)
(2.19%)
(115.86%)
(117.32%)
(127.46%)
(44.44%)