สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH มีรายได้จากการรับประกันภัยในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 22,439 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับนโยบายการรับประกันภัย (Selective) และการกำหนดราคาตามความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ซึ่งแม้ว่าเบี้ยประกันภัยรวมของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยจะเติบโตเพียง 0.05% ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ TIPH ยังสามารถทำกำไรจากการรับประกันภัยได้ถึง 2,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยลดลง 2.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

TIPH มีแผนธุรกิจในอนาคตที่จะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยใหม่ ๆ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้จากการรับประกันภัยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้จะอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม

จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง TIPH มี P/E อยู่ที่ 9.67 P/BV อยู่ที่ 1.83 และ YIELD อยู่ที่ 1.9 ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน ราคาหุ้น 52 สัปดาห์ สูงสุด/ต่ำสุด อยู่ที่ 64.97 บาท/23.03 บาท และราคาล่าสุดอยู่ที่ 27.06 บาท เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผลและรอการเติบโตของธุรกิจ แต่เนื่องจาก YIELD ค่อนข้างต่ำ จึงอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลเป็นหลัก นอกจากนี้ บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ค่อนข้างสูง อยู่ที่ 5.37 ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนบางกลุ่ม