สรุปงบล่าสุด THIP
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการของ หุ้น THIP (บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)) ไตรมาส 3 ปี 2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3 ปี 2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายรวม 1,147.7 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (ลดลง 2.1% เมื่อเทียบกับ 1,172.8 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2567) กำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 17.9 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายและการขาดทุนจากการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นการผลิต รวมถึงผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ส่งผลให้เกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (หน้า 2)
สำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขาย 3,666.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 613.8 ล้านบาท) จากการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมที่เพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 166.0 ล้านบาท (หน้า 2)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้การส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลง (หน้า 2) เงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและทรงตัวในไตรมาส 3/2568 (หน้า 4)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **กำไรขั้นต้น:** สำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 182.1 ล้านบาท ลดลง 32.9 ล้านบาทเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากบริษัทย่อยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการผลิต ทำให้มีต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง และมีการรับรู้ขาดทุนจากการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือจำนวน 21.3 ล้านบาท (หน้า 4) สำหรับงวด 9 เดือน กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 684.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.6 ล้านบาท หรือ 11.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น (หน้า 4)
* **รายได้อื่น:** สำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนรายได้อื่นลดลง 7.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากดอกเบี้ยรับของกลุ่มบริษัทซึ่งแปรผันตามเงินสดคงเหลือและอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสนั้น (หน้า 4)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย:** สำหรับไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลงเล็กน้อยจำนวน 0.1 ล้านบาท (0.4%) ในขณะที่งวด 9 เดือนสูงขึ้น 6.6 ล้านบาท (6.5%) เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายการหลักที่เปลี่ยนแปลงมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและค่าขนส่งสินค้าซึ่งแปรผันตามยอดขาย (หน้า 4)
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** สำหรับไตรมาส 3 และ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เพิ่มขึ้น 30.2 ล้านบาท (36.2%) และ 83.5 ล้านบาท (33.5%) ตามลำดับ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กรในอนาคต รวมถึงกลุ่มบริษัทมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายของบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์สิทธิการใช้ (หน้า 4)
* **กำไรและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน:** กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับงวด 3 เดือนและ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 จำนวน 0.4 ล้านบาท และ 22.7 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและทรงตัวในไตรมาส 3/2568 (หน้า 4)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์:** ณ 30 กันยายน 2568 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวม 4,187.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 422.8 ล้านบาท หรือ 11.2% รายการหลักมาจากที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นจำนวน 236.2 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการปรับปรุงโรงงานและการซื้อเครื่องจักรของบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม และเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เพิ่มขึ้นจำนวน 153.4 ล้านบาท (หน้า 5)
* **หนี้สิน:** ณ 30 กันยายน 2568 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินรวมจำนวน 1,418.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 418.8 ล้านบาท คิดเป็น 41.9% โดยรายการหลักมาจากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 141.2 ล้านบาท ตามปริมาณการสั่งซื้อวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากทั้งบริษัทและบริษัทย่อย นอกจากนี้บริษัทย่อยมีการกู้ยืมจากสถาบันการเงินรวมจำนวน 296.7 ล้านบาท (หน้า 5)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ 30 กันยายน 2568 จำนวน 2,769.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 4.0 ล้านบาท คิดเป็น 0.1% จากกำไรเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดหลังหักเงินปันผลจ่าย (หน้า 5)
(6.97%)
(1.83%)
(25.74%)
(15.29%)
(20.19%)
(13.71%)
(4.24%)
(25.15%)
(70.48%)
(71.12%)
(77.73%)
(187.55%)