สรุปงบล่าสุด TERA
บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) (TERA): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 - ภาพรวม
บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) (TERA) ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 โดยใช้เงินทุนจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 1.75 บาท บริษัทมีรายได้หลักจากการให้บริการด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร และการขายอุปกรณ์ด้านไอที โดยในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 119.37 ล้านบาท ลดลง 10.55% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5.67 ล้านบาท ลดลง 43.58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4.68% ซึ่งลดลงจาก 7.37% ในงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัทมีแผนธุรกิจที่จะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) โดยเน้นการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ ในอนาคต บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้จากการให้บริการ 6[๐บ4 และการบริการ 5๐“ผล@ ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการขยายฐานลูกค้า การพัฒนาบริการใหม่ๆ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการให้บริการ
**ฐานะทางการเงิน**
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 460.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.27% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์หมุนเวียน หนี้สินรวม 202.01 ล้านบาท ลดลง 9.94% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากการลดลงของหนี้สินที่เกิดจากสัญญาเช่า ส่วนของผู้ถือหุ้น 258.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.43% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยหลักมาจากการเพิ่มทุนชำระแล้วจาก IPO และส่วนเกินมูลค่าหุ้น
**กระแสเงินสด**
บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 226.83 ล้านบาท โดยกระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน 8.39 ล้านบาท กระแสเงินสดสุทธิที่ใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 1.62 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดสุทธิที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน 139.84 ล้านบาท
**วิเคราะห์โอกาสการลงทุน**
จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด แม้ว่ารายได้และกำไรสุทธิจะลดลง แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท โดยบริษัทมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน และมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในอนาคต ดังนั้น TERA อาจเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัท อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท เช่น
* **ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน:** ตลาดไอทีมีความแข่งขันสูง ทำให้บริษัทต้องพัฒนาบริการและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้า
* **ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี:** เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
* **ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ:** สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลต่อการใช้จ่ายด้านไอทีของลูกค้า ทำให้บริษัทมีรายได้ลดลง
โดยรวม TERA มีศักยภาพในการเติบโต แต่ยังคงต้องจับตาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สำหรับนักลงทุนที่สนใจ TERA ควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนใน TERA เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง
(4.74%)
(0.00%)
(0.31%)
(0.00%)
(4.84%)
(0.00%)
(0.03%)
(0.00%)
(23.90%)
(0.00%)
(101.87%)
(0.00%)