สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทวิเคราะห์ผลประกอบการหุ้น SUTHA: สรุปภาพรวมปี 2567 และแนวโน้ม

บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) (SUTHA) สำหรับปี 2567 โดยอ้างอิงจากเอกสารคำอธิบายและบทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการที่เผยแพร่ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงข้อมูลสรุปงบกำไรขาดทุนและฐานะทางการเงินเพิ่มเติม

**1. สรุปภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567**

SUTHA มี**รายได้จากการขายรวม 1,354.72 ล้านบาท ลดลง 5%** เมื่อเทียบกับปีก่อน (1,428.44 ล้านบาท) สาเหตุหลักมาจากการลดลงของปริมาณการขายผลิตภัณฑ์จากเตาเผา (ปูนขาว, ปูนโดโลไมท์) ให้กับอุตสาหกรรมเหล็กซึ่งประสบปัญหาจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ตลาดเหล็กได้รับผลกระทบจากการนำเข้าเหล็กที่มีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ ตลาดก่อสร้างที่ลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากการลดลงของยอดขายบ้านพักอาศัย และตลาดน้ำตาลที่ลดลงเล็กน้อยจากปริมาณการผลิตน้ำตาลที่ลดลงเฉพาะในปี 23/24 ก็มีส่วนทำให้รายได้ลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดเคมีภัณฑ์เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน (ราคาลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง) ในขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์แคลเซียมคาร์บอเนต (GCC) และหินผสมคอนกรีตเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจหินอ่อนจากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น

**อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28% เพิ่มขึ้น 4%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับธุรกิจ บริษัท หินอ่อน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ต้นทุนผลิตลดลง ส่งผลให้ **EBITDA อยู่ที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ต้นทุนทางการเงินลดลง 6% จากกลยุทธ์การชำระคืนเงินต้นอย่างสม่ำเสมอและการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ SUTHA มี**กำไรสุทธิ 62.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสาเหตุหลักคือการประหยัดต้นทุนการขายและต้นทุนทางการเงิน

**กำไรต่อหุ้น**อยู่ที่ **0.08 บาท** เพิ่มขึ้น 33.33% จากปีก่อนหน้าที่ 0.06 บาท

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม**

* **ภาพรวมเศรษฐกิจ:** เศรษฐกิจไทยในปี 2567 เติบโต 2.5% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีปัจจัยกดดันจากการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว, การใช้จ่ายภาครัฐที่จำกัด, และการส่งออกที่ไม่เติบโตเท่าที่ควร อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 2.25% แต่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศหลัก
* **กลุ่มอุตสาหกรรม:**
* **เหล็ก:** เป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุดเนื่องจากปริมาณการผลิตเกินความต้องการทั่วโลกและการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น การอนุญาตให้ใช้เหล็กจากเตาหลอมเหนี่ยวนำ (ซึ่งไม่มีการใช้ปูนขาว) ในงานก่อสร้างยังส่งผลเสียต่อผู้ผลิตที่ใช้เตาหลอมไฟฟ้า (EAF) ซึ่งต้องใช้ปูนขาวในการผลิตเหล็กคุณภาพสูง
* **น้ำตาล:** ปริมาณอ้อยที่ได้ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ยอดขายนน้ำตาลในไตรมาส 4 ไม่สูงนักเนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาล
* **ก่อสร้าง:** ชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ส่งผลกระทบต่อยอดขายปูนขาวในกลุ่มลูกค้าอิฐมวลเบาและหินที่ใช้ในงานก่อสร้าง
* **เคมี:** ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแม้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น
* **กระดาษและเยื่อกระดาษ:** ทรงตัว แต่มีการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ในตลาด
* **ธุรกิจแคลเซียมคาร์บอเนต (GCC):** ปรับตัวดีขึ้นในบางประเภทผลิตภัณฑ์

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไรของ SUTHA ในปี 2567 ได้แก่:

* **รายได้:** ลดลงเนื่องจากผลกระทบจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในอุตสาหกรรมเหล็กและตลาดก่อสร้าง
* **ต้นทุนการผลิต:** ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
* **ประสิทธิภาพการผลิต:** บริษัท หินอ่อน จำกัด มีประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น
* **ต้นทุนทางการเงิน:** ลดลงจากการบริหารจัดการหนี้สินที่มีประสิทธิภาพ
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงและประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน**

* **สินทรัพย์หมุนเวียน:** เพิ่มขึ้นจากการซื้อเชื้อเพลิงสำหรับการดำเนินงานในปีนี้ (ไตรมาส 4/2567 เทียบกับ 4/2566) และลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน (ไตรมาส 4/2567 เทียบกับ 3/2567) จากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
* **สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน:** ลดลงจากการตัดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ถาวรและการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตน รวมถึงการโอนกลับรายการสินทรัพย์ภาษีรอการตัดบัญชี
* **หนี้สินหมุนเวียน:** เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อซื้อเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตในปีนี้ และอยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว
* **หนี้สินไม่หมุนเวียน:** ลดลงจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวตามกำหนด
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** อยู่ในระดับเดียวกับปีที่แล้วจากผลกำไรสุทธิสะสม และการจ่ายเงินปันผลในปีนี้ และลดลงจากการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสล่าสุด

**5. อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ**

| อัตราส่วน | ปี 2566 | ปี 2567 |
| :-------------------------------------- | :-------- | :-------- |
| อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) (%) | 4.26% | 6.27% |
| ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) | 66 | 60 |

**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**

* **ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ:**
* กลยุทธ์การตั้งราคาที่แข่งขันได้จากผู้ผลิตรายย่อยที่มีต้นทุนการจัดการต่ำ
* การพึ่งพาวัตถุดิบธรรมชาติ (สิทธิ์สัมปทานเหมืองหินปูน)
* ความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
* การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านสภาพภูมิอากาศที่เข้มงวดขึ้น
* **โอกาส:**
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรม
* การลงทุนในระบบ Solar Rooftop เพื่อใช้พลังงานทดแทน
* การมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจและธรรมาภิบาล (ESG)

**7. สรุป**

SUTHA เผชิญกับความท้าทายในปี 2567 จากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในอุตสาหกรรมเหล็กและตลาดก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้กำไรสุทธิและ EBITDA เพิ่มขึ้น SUTHA ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ SUTHA ในอนาคต รวมถึงการให้ความสำคัญกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย