สรุปงบล่าสุด STOWER
บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 97.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 126.94% ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและโทรคมนาคม 157.37% รายได้จากการจำหน่ายสินค้า 61.76% และรายได้จากธุรกิจโทรคมนาคมในต่างประเทศ 95.94% บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสถานีโทรคมนาคมจำนวน 36 สถานีในไตรมาสก่อนหน้า และได้ดำเนินการส่งมอบและรับชำระเงินเกือบทั้งหมดแล้ว โดยคงเหลือเพียงส่วนน้อยที่จะส่งมอบให้เรียบร้อยภายในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้ค้างรับจากการขายโครงสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยอีก 134.98 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้
บริษัทฯ มีแผนเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้และเพิ่มการใช้กำลังการผลิต พร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีกำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในธุรกิจโทรคมนาคมในต่างประเทศที่บริษัทย่อยในฟิลิปปินส์กำลังพัฒนาธุรกิจด้านการติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับสถานีโทรคมนาคมและอาคารทั่วไป เพื่อเป็นแหล่งรายได้เพิ่มเติ่มของบริษัทฯ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 10.09 ล้านบาท คิดเป็น 10.31% ของรายได้จากการขายและบริการ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 195.25% แม้ว่าบริษัทฯ จะมีผลขาดทุนสุทธิ 29.15 ล้านบาท โดยขาดทุนลดลง 28.6% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 40.74 ล้านบาท บริษัทฯ มีแผนธุรกิจที่จะเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ เพิ่มการใช้กำลังการผลิต ลดค่าใช้จ่าย และการดำเนินงานในต่างประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ คาดว่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ
จากข้อมูลทางการเงินย้อนหลังของ STOWER บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี D/E เพียง 0.44 เท่า ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงถึงการใช้เงินกู้ยืมน้อย ทำให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นในการหาเงินทุนเพื่อการลงทุนและเติบโตในอนาคต บริษัทฯ มีอัตราส่วนทุนหมุนเวียน 2.77 เท่า สะท้อนถึงสภาพคล่องทางการเงินที่ดี มีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับการดำเนินงานตามแผนธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ STOWER มีความผันผวนสูง ราคาหุ้นเฉลี่ยไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 0.07 บาท ลดลงจาก 0.13 บาท ในไตรมาส 1 ปี 2567 P/E ของ STOWER อยู่ในระดับ -100 แสดงถึงการขาดทุนสุทธิของบริษัทฯ และ P/BV อยู่ที่ 0.25 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยที่ประมาณ 1.5 เท่า แสดงว่าราคาหุ้น STOWER ถูกกว่ามูลค่าทางบัญชี สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนต่อผลประกอบการในอนาคตที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 7.79 ล้านบาท แต่มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน 143.35 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โอกาสในการลงทุนใน STOWER อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองเห็นศักยภาพของธุรกิจ โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจด้านโทรคมนาคมและพลังงานหมุนเวียน บริษัทฯ มี D/E ต่ำ มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี และมีแผนธุรกิจที่จะเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้และเพิ่มการใช้กำลังการผลิต หากบริษัทฯ สามารถดำเนินแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลประกอบการดีขึ้นตามเป้าหมาย ราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
* **ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน**: บริษัทฯ ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง
* **ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ**: เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทฯ
* **ความเสี่ยงด้านการเมือง**: การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศฟิลิปปินส์ อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
* **ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน**: บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทฯ
โดยสรุป STOWER เป็นบริษัทฯ ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโต แต่ยังมีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โอกาสในการลงทุนใน STOWER อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีความอดทนสูงและมีความเข้าใจในธุรกิจและความเสี่ยงของบริษัทฯ
(23.84%)
(101.78%)
(308.34%)
(195.24%)
(229.97%)
(147.21%)
(3.07%)
(0.27%)
(25.85%)
(28.44%)
(62.58%)
(160.31%)