สรุปงบล่าสุด STGT
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (STGT) ไตรมาส 3/2568
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3/2568 STGT มีรายได้จากการขายรวม 6,079.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ปริมาณการขายอยู่ที่ 10,061 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 10.7% QoQ และ 4.9% YoY โดยได้แรงหนุนจากการกลับมาของคำสั่งซื้อ โดยเฉพาะจากลูกค้าที่ชะลอไปในช่วงก่อนหน้า กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 566.5 ล้านบาท ลดลง 24.8% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 10.5% YoY อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ประสบผลขาดทุนสุทธิ 106.0 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิ 1.7% ลดลง 237.6% QoQ และขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 86.5 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน (อ้างอิง: หน้า 1-2)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ราคาขายเฉลี่ยถุงมือยางในทุกผลิตภัณฑ์ลดลง 7.6% QoQ และ 8.6% YoY อยู่ที่ 598 บาท/พันชิ้น (USD 18.60) เนื่องจากการแข่งขันสูงในอุตสาหกรรม ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 2.5% QoQ และ 7.2% YoY เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (อ้างอิง: หน้า 1)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** เพิ่มขึ้น 1.4% QoQ แต่ลดลง 5.6% YoY (อ้างอิง: หน้า 1)
* **ต้นทุนขาย:** เพิ่มขึ้น 3.0% QoQ จากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณขายที่สูงขึ้น แต่ลดลง 7.7% YoY จากราคาน้ำยางธรรมชาติและน้ำยางสังเคราะห์ที่ลดลง (อ้างอิง: หน้า 1)
* **กำไรขั้นต้น:** ลดลง 15.8% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลงมากกว่าต้นทุนขายรวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่เพิ่มขึ้น 32.0% YoY เนื่องจากไตรมาส 3/2567 เป็นช่วงที่บริษัทฯ ได้รับความกดดันจากราคาขายเฉลี่ยและค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว (อ้างอิง: หน้า 1)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A):** เพิ่มขึ้น 17.6% QoQ และ 32.3% YoY โดยหลักมาจากการบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับอาคารและเครื่องจักรเก่าที่บริษัทฯ ได้หยุดการใช้งาน (อ้างอิง: หน้า 2)
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** อยู่ที่ 7.2% ลดลงจาก 8.6% ในไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นจาก 5.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (อ้างอิง: หน้า 1)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ณ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 46,050.0 ล้านบาท ลดลง 5.9% จากสิ้นปี 2567 โดยหลักมาจากการลดลงของสินทรัพย์หมุนเวียน หนี้สินรวมเท่ากับ 7,998.7 ล้านบาท ลดลง 23.1% จากสิ้นปี 2567 โดยหลักจากการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green bond) ส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 38,051.4 ล้านบาท ลดลง 1.2% จากสิ้นปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net IBD to equity) อยู่ที่ 0.03 เท่า ลดลงจาก 0.05 เท่า ณ สิ้นปี 2567 (อ้างอิง: หน้า 2-3)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* บริษัทฯ มีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization rate) ในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 77.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 75.8% และจาก 77.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (อ้างอิง: หน้า 1)
* บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยส่งเสริมการผลิต และลดความซ้ำซ้อนในกระบวนการผลิต (อ้างอิง: หน้า 4)
* บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติ โดยมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันเหนือคู่แข่งในด้านของแหล่งวัตถุดิบน้ายางธรรมชาติ (อ้างอิง: หน้า 4)
* บริษัทฯ ได้รับ "สินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืน" (Sustainability-Linked Loan: SLL) มูลค่า 2,000 ล้านบาทจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน (อ้างอิง: หน้า 5)
**ภาพรวม:**
STGT เผชิญกับความท้าทายจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงและการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม แม้ว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น แต่ผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทำให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว
(1.52%)
(5.55%)
(15.80%)
(32.00%)
(17.09%)
(39.80%)
(17.62%)
(32.26%)
(616.69%)
(738.36%)
(62.45%)
(84.00%)