สรุปงบล่าสุด STA

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) (ฉบับปรับปรุง)
**ภาพรวมผลประกอบการปี 2567:**
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 ที่ 1,670.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและพลิกจากผลขาดทุนในปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากราคายางพาราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบร้อยละ 26.7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ประกอบกับการจำหน่ายยาง Compound (ยางผสม) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่ายางปกติ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีปริมาณขายยางธรรมชาติอยู่ที่ 1.4 ล้านตัน และปริมาณขายถุงมือยางสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 38,549 ล้านชิ้น ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในตลาดโลก
**สรุปรายได้รวม:**
* **ปี 2567:** รายได้รวมอยู่ที่ 114,373.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% YoY จากการเติบโตของทั้งธุรกิจยางธรรมชาติและถุงมือยาง
* **ไตรมาส 4/2567:** รายได้รวมอยู่ที่ 33,256.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% QoQ จากราคาขายและปริมาณขายยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
**สถานการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ:**
* **ราคายางพารา:** ราคายางแท่ง TSR20 ณ ตลาด SICOM ในไตรมาส 4/2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 196.0 US Cent/Kg เพิ่มขึ้น 11.9% QoQ และ 34.8% YoY สำหรับปี 2567 ราคายางแท่ง TSR20 เฉลี่ยอยู่ที่ 174.3 US Cent/Kg เพิ่มขึ้น 26.7% YoY จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว
* **อุปทานยางธรรมชาติ:**
* **ประเทศไทย:** อุปทานปกติ แม้เผชิญกับน้ำท่วมและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยผลกระทบแตกต่างกันในแต่ละภาค ภาคใต้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว แต่ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือช่วยชดเชย
* **อินโดนีเซีย:** อุปทานยังคงทรงตัวหรืออาจลดลง จากการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูก และสถานการณ์โรคใบร่วงฟื้นตัวดีขึ้น
* **ไอวอรี่โคสต์:** ยังคงให้ผลผลิตดีและมีศักยภาพในการเติบโต
* **อุปสงค์ยางธรรมชาติ:** ในไตรมาส 4/2567 เต็มไปด้วยความกังวลและสับสน ท่ามกลางกระแสข่าวการเลื่อนการบังคับใช้ EUDR ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อยาง Compound (S-SBR) เพื่อรอดูทิศทางตลาด ในขณะที่อุปสงค์ยางปกติเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
* **ปัจจัยที่ต้องติดตาม:** ราคาทุเรียนและปาล์มน้ำมัน ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงต่อพื้นที่ปลูกยางในภาคตะวันออกและใต้ของไทย
* **EUDR:** ข่าวการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ของสหภาพยุโรปออกไป 12 เดือน ส่งผลกระทบต่อราคายาง
* **อัตราแลกเปลี่ยน:** การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการส่งออก แต่บริษัทฯ สามารถผลักดันราคาขายเฉลี่ยในสกุลเงินดอลลาร์ให้เพิ่มขึ้นได้
* **มาตรการทางภาษี:** มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สำหรับถุงมือยางจากจีน ช่วยหนุนความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในตลาดอเมริกา
* **ปรากฏการณ์เอลนีโญ:** ในปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลให้วัตถุดิบขาดแคลน แต่ในปี 2567 สถานการณ์คลี่คลายลง ทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาวัตถุดิบได้อย่างเพียงพอ
**การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากยางธรรมชาติ:**
* **ปี 2567:** เพิ่มขึ้น 37.6% YoY จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 30.2% YoY และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 8.3% YoY
* **ไตรมาส 4/2567:** เพิ่มขึ้น 5.2% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 3.1% QoQ และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 1.7% QoQ
* **รายได้จากถุงมือยาง:**
* **ปี 2567:** เพิ่มขึ้น 30.2% YoY จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 22.8% YoY และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 6.1% YoY
* **ไตรมาส 4/2567:** เพิ่มขึ้น 5.3% QoQ ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น แต่ราคาขายลดลง 1.7% QoQ
* **กำไรขั้นต้น:**
* **ปี 2567:** อยู่ที่ 10,821.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% YoY โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 9.5% ใกล้เคียงกับปีก่อน
* **ไตรมาส 4/2567:** อยู่ที่ 2,510.9 ล้านบาท ลดลง 23.7% QoQ โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.5% ลดลงจากไตรมาสก่อน
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A):**
* **ปี 2567:** อยู่ที่ 7,973.5 ล้านบาท ลดลง 1.1% YoY ทำให้อัตรา SG&A ต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 7.0% จาก 9.6% ในปีก่อน
* **ไตรมาส 4/2567:** อยู่ที่ 2,141.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% QoQ ทำให้อัตรา SG&A ต่อรายได้อยู่ที่ 6.4% ลดลงจากไตรมาสก่อน
**สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* ในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E Ratio) เพียง 0.8 เท่า ซึ่งแสดงถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
**การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
* (ไม่มีข้อมูล)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:**
* ความไม่แน่นอนของราคายางพารา
* ความผันผวนของสภาพอากาศ
* การแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมถุงมือยาง
* ผลกระทบจากการบังคับใช้ EUDR
* การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูกยางไปปลูกพืชอื่น
* **โอกาส:**
* การขยายตลาดส่งออก
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
* การเติบโตของความต้องการยางธรรมชาติและถุงมือยางในตลาดโลก
* การที่บริษัทดำเนินธุรกิจในไอวอรี่โคสต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางพาราที่มีศักยภาพในการเติบโต
**สรุป:**
โดยสรุป ผลการดำเนินงานของ STA ในปี 2567 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคายางพาราที่เพิ่มขึ้นและการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดถุงมือยางยังคงเป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ EUDR และการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ปลูกยางไปยังพืชอื่น บริษัทฯ ยังคงต้องบริหารจัดการความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการแสวงหาโอกาสในการเติบโตในตลาดใหม่และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืนในระยะยาว
**หมายเหตุ:** ข้อมูลข้างต้นเป็นการวิเคราะห์จากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อผลประกอบการของ STA ที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(6.65%)
(54.83%)
(23.73%)
(26.66%)
(28.49%)
(18.26%)
(4.61%)
(6.29%)
(65.16%)
(302.43%)
(669.34%)
(21.70%)