สรุปงบล่าสุด SSSC
บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จำกัด (มหาชน) หรือ SSSC ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีผลประกอบการกำไรสุทธิ 131.72 ล้านบาท ลดลง 76.42 ล้านบาท หรือลดลง 36.72% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและงานติดตั้งลดลง 367.05 ล้านบาท หรือลดลง 9.57% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อุตสาหกรรมยานยนต์มีการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น และการแข่งขันจากสินค้าเหล็กนำเข้า โดยเฉพาะจากประเทศจีน รวมถึงงานก่อสร้างที่ชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน แนวทางการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงมีความเข้มงวดสูงขึ้น นอกจากนี้ ค่าบริการตัดเหล็กยังลดลง 9.53 ล้านบาท หรือลดลง 4.02%
ในส่วนของแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม ควบคู่กับการหาลูกค้าใหม่ และมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด รวมถึงการบริหารจัดการหนี้สินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จะดีขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังของ SSSC พบว่า ราคาหุ้นเฉลี่ยในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 2.44 บาท P/E ratio ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 7.95 สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีระดับความคาดหวังผลตอบแทนที่ต่ำ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำกว่า 1 หมายถึงพื้นฐานทางการเงินมีความแข็งแกร่ง มีโอกาสในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน P/BV ratio ที่ 0.45 ซึ่งต่ำกว่า 1 สะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัทสูงกว่ามูลค่าตลาด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดประเมินมูลค่าของบริษัทต่ำเกินไป อย่างไรก็ดี YIELD ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 10% นับว่าเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 750.028674 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนอยู่ที่ -39.468824 ซึ่งหมายถึงบริษัทฯ ได้นำเงินสดไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ
โอกาสในการลงทุนใน SSSC ได้แก่
* บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ต่ำ
* บริษัทฯ มี YIELD สูง
* บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
* บริษัทฯ มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการพัฒนาธุรกิจ
ความเสี่ยงในการลงทุนใน SSSC ได้แก่
* การแข่งขันในตลาดสูง
* สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน
* ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยรวมแล้ว SSSC เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวแบบรับเงินปันผล เพราะผลตอบแทนจากเงินปันผลค่อนข้างสูง แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรระยะสั้น อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะความผันผวนของราคาหุ้นอาจสูง
(6.53%)
(2.73%)
(24.80%)
(7.00%)
(17.14%)
(10.07%)
(4.14%)
(3.39%)
(79.28%)
(19.20%)
(382.86%)
(49.97%)