สรุปงบล่าสุด SSF
บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SSF ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 1,401.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.2% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าในบริษัทย่อย 2 แห่ง คือ บริษัท สุราษฎร์ซีฟูดส์ จำกัด และ บริษัท สุรพลซูพรีมฟู้ดส์ จำกัด ที่ขายสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศออสเตรเลียได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากการขายสินค้าในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 12.8% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่เท่ากับ 13.7% ซึ่งเป็นผลมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นมากกว่าปี 2566 ส่งผลให้รายได้จากการขายสินค้าเมื่อแปลงค่าเป็นสกุลเงินบาทในปี 2567 ต่ำกว่าปี 2566
แผนธุรกิจในอนาคตของ SSF จะเน้นไปที่การขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ที่มีความต้องการสินค้าอาหารแช่แข็งจากไทยเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ SSF ยังมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 10-15%
การวิเคราะห์โอกาสการลงทุนใน SSF จะต้องพิจารณาจากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง SSF มีอัตรากำไรสุทธิที่ 5.1% ในไตรมาส 3/2567 และมี P/E เท่ากับ 12.07 ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา P/BV อยู่ที่ 0.98 ซึ่งต่ำกว่า 1 แสดงถึงความน่าสนใจในการลงทุน และ YIELD อยู่ที่ 5.33% โดย SSF มี D/E เท่ากับ 0.75 แสดงถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง อีกทั้ง SSF ยังมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 644.09 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -137.26 ล้านบาท สะท้อนถึงการลงทุนในอนาคตที่มั่นคง
**โอกาส**
* SSF มีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง
* มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* มีการลงทุนในอนาคตที่มั่นคง
**ความเสี่ยง**
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
* การแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น
จากการวิเคราะห์ SSF เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวและต้องการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายในการผลิตอย่างใกล้ชิด
(6.25%)
(13.22%)
(14.60%)
(3.73%)
(19.60%)
(8.42%)
(2.58%)
(5.18%)
(7.29%)
(29.07%)
(43.12%)
(6.18%)