สรุปงบล่าสุด SSF

บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการหุ้น SSF (บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)) ปี 2567
**สรุปภาพรวม**
บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) (SSF) รายงานผลประกอบการปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยมีกำไรสุทธิรวม 301.6 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.5% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 303.5 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จากการขายสินค้าจะเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยด้านค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หมดอายุลง ส่งผลให้กำไรสุทธิโดยรวมลดลงเล็กน้อย
**1. สรุปรายได้รวม:**
* **รายได้รวม:** ในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 5,388.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 313.7 ล้านบาท หรือ 6.2% เมื่อเทียบกับปี 2566
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 301.6 ล้านบาท ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปี 2566
* **ปัจจัยการเติบโต:** การเติบโตของรายได้มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในบริษัทย่อย 2 แห่ง:
* **บริษัท สุราษฎร์ซีฟู้ดส์ จำกัด:** รายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าไปยังประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
* **บริษัท สุรพลซูพรีมฟู้ดส์ จำกัด:** รายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่น ทั้งจากสินค้าเดิมและสินค้าใหม่
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
จากข้อมูลที่ให้มา ไม่มีการกล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนี้:
* **ค่าเงินบาท:** ค่าเงินบาทมีความผันผวนมากในปี 2567 ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนดังกล่าว
* **การแข่งขัน:** ภาวะการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการกำหนดราคาขาย
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** บริษัทสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ประมาณ 13.5% ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2566 ที่ 13.6% แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นและมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น
* **กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน:** บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 52.1 ล้านบาทในปี 2567 เทียบกับ 50.7 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
* **ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้:** ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 34.2 ล้านบาท หรือ 108.0% เมื่อเทียบกับปี 2566 เนื่องจากการสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์และหนี้สินในเอกสารที่ให้มา
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสดในเอกสารที่ให้มา
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** ความผันผวนของค่าเงินบาทและการแข่งขันด้านราคา
* **โอกาส:** การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในตลาดต่างประเทศ (ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) และการเพิ่มสินค้าใหม่
**7. สรุป:**
โดยสรุป แม้ว่า SSF จะสามารถเพิ่มรายได้จากการขายสินค้าได้ในปี 2567 แต่กำไรสุทธิโดยรวมลดลงเล็กน้อยเนื่องจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ มีการจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาทโดยใช้สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำไรคือค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการสิ้นสุดสิทธิประโยชน์ทางภาษี
(3.51%)
(6.32%)
(24.37%)
(19.21%)
(21.59%)
(23.96%)
(3.91%)
(4.44%)
(79.11%)
(73.96%)
(58.23%)
(21.39%)