สรุปงบล่าสุด SPG

บริษัท สยามภัณฑ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท สยามภัณฑ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SPG) ปี 2567
บทความนี้สรุปผลประกอบการปี 2567 ของ บริษัท สยามภัณฑ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SPG) โดยอ้างอิงจากรายงานผลประกอบการประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เปรียบเทียบกับปี 2566
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 SPG มีรายได้รวม 2,107.19 ล้านบาท ลดลง 662.20 ล้านบาท หรือ 23.91% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวม 2,769.38 ล้านบาท กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 246.74 ล้านบาท ลดลง 96.98 ล้านบาท หรือ 28.21% เมื่อเทียบกับปี 2566
**ปัจจัย:** สาเหตุหลักของการลดลงของรายได้และกำไร มาจากยอดขายในประเทศแถบชายแดนที่ลดลงถึง 709.38 ล้านบาท หรือ 57.05% เนื่องจากการเกิดสงครามภายในประเทศพม่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนอย่างมีนัยสำคัญ
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
(ไม่มีข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจในรายงาน)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** ลดลง 680.61 ล้านบาท หรือ 25.02% คิดเป็น 96.80% ของรายได้รวม
* **รายได้จากการลงทุน:** เพิ่มขึ้น 18.30 ล้านบาท หรือ 57.43% คิดเป็น 2.38% ของรายได้รวม
* **ต้นทุนขาย:** ลดลง 454.15 ล้านบาท หรือ 24.36%
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ลดลง 73.74 ล้านบาท หรือ 16.34%
ถึงแม้ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลง แต่การลดลงของรายได้จากการขายมีผลกระทบมากกว่า ทำให้กำไรก่อนภาษีเงินได้ลดลง 134.31 ล้านบาท หรือ 29.61% และกำไรสุทธิลดลง 106.99 ล้านบาท หรือ 29.57%
**สาเหตุ:** การลดลงของรายได้จากการขายเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการลดลงของกำไร แม้ว่าบริษัทจะสามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
(ไม่มีข้อมูลสินทรัพย์ หนี้สิน และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในรายงาน)
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
(ไม่มีข้อมูลกระแสเงินสดในรายงาน)
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศพม่า และผลกระทบต่อการค้าชายแดนยังคงเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ
* **โอกาส:** (ไม่มีข้อมูลโอกาสในการลงทุนในรายงาน)
**7. สรุปสั้นท้ายสุด:**
SPG ประสบปัญหาจากการลดลงของรายได้จากการขาย โดยเฉพาะในตลาดชายแดนอันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศพม่า แม้บริษัทจะสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากการลดลงของรายได้ได้ ทำให้กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
(58.04%)
(52.76%)
(21.49%)
(60.57%)
(23.12%)
(16.54%)
(11.33%)
(51.14%)
(19.77%)
(76.00%)
(415.16%)
(168.03%)