สรุปงบล่าสุด SPACK
บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) (SPACK) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกฟื้นจากขาดทุนเป็นกำไรสุทธิ 53.03 ล้านบาท
บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) (SPACK) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 53.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจากไตรมาส 3/2566 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 12.73 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 316.49% สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและการให้บริการที่เติบโตขึ้น 6.23% เป็น 1,017.64 ล้านบาท จาก 957.96 ล้านบาทในไตรมาส 3/2566 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มลูกค้าถุงมือยาง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์อุปทานส่วนเกินในอุตสาหกรรมถุงมือยางที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอดขายของกลุ่มลูกค้าอิเล็กทรอนิกส์กลับลดลง เนื่องจากลูกค้าบางรายย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า นอกจากนี้ บริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการลดลงจาก 88.10% ของรายได้ในไตรมาส 3/2566 เหลือ 85.18% ของรายได้ในไตรมาส 3/2567 และค่าใช้จ่ายขายและบริหารก็ลดลงจาก 9.12% ของรายได้ในไตรมาส 3/2566 เหลือ 8.44% ของรายได้ในไตรมาส 3/2567
บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มถุงมือยางและกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารต่อไป โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำไร นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
การเติบโตอย่างโดดเด่นของกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับ SPACK โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น อัตราส่วน P/E ที่ 15.34 อัตราส่วน P/BV ที่ 0.83 และ D/E ที่ 1.38 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับราคาหุ้นเฉลี่ยในอดีตที่ต่ำกว่า 3 บาท และ D/E ที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งสะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไร และสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนของบริษัทฯ ยังคงติดลบ ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ
**โอกาส**
- โอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มถุงมือยาง
- โอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
- โอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการ
- โอกาสในการลดต้นทุน เพื่อเพิ่มกำไร
- โอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต
**ความเสี่ยง**
- ความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาด
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา วัตถุดิบ
- ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
โดยรวมแล้ว SPACK เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ และแนวโน้มของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยง และผลตอบแทนที่คาดหวัง ก่อนตัดสินใจลงทุน SPACK เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว โดยมุ่งหวังผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ และการจ่ายเงินปันผล
(6.06%)
(12.80%)
(14.61%)
(43.94%)
(8.07%)
(27.66%)
(0.72%)
(0.12%)
(106.05%)
(601.57%)
(230.70%)
(181.73%)