สรุปงบล่าสุด SLP

บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**บทสรุปผลประกอบการ บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) ไตรมาส 4 ปี 2567**
**1. สรุปรายได้รวม**
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) มีรายได้จากการขายสินค้ารวม 126.49 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 26.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 376% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตของกำไรสุทธิอย่างก้าวกระโดดนี้มีสาเหตุหลักมาจากการนำผลประโยชน์ทางภาษีเงินได้ (ผลขาดทุนทางภาษี) จำนวน 22.50 ล้านบาท มาใช้
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ**
(ไม่มีข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจในรายงาน)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
ต้นทุนขายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ลดลง 10% เหลือ 99.23 ล้านบาท เนื่องจากการควบคุมกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านปริมาณวัตถุดิบและการบริหารเวลา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22% ลดลงเล็กน้อย 3% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการลงทุนในเครื่องจักรทำให้ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 6% เป็น 24.60 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารการขายและบุคลากรที่เพิ่มขึ้น
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน**
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 977.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสด เงินฝากธนาคาร และเงินลงทุนระยะสั้น หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 39% เป็น 127.37 ล้านบาท เนื่องจากการทำสัญญาเช่าอาคารโรงงานใหม่ ซึ่งทำให้หนี้สินตามสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเพิ่มขึ้นเป็น 850.51 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของผลขาดทุนสะสมจากการมีผลกำไรจากการดำเนินงาน
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด**
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทมีกระแสเงินสดก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงานเป็นบวกอยู่ที่ 91 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 37.88 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 58.02 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 0.15
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน**
**ปัจจัยความเสี่ยง:**
* ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
* ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน
* การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและข้อกำหนดด้าน ESG
* การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและแรงกดดันจากคู่ค้า
* ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
**โอกาสในการลงทุน:**
* แผนพัฒนาความยั่งยืนโดยนำแนวทาง ESG มาเป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจ
* การมุ่งเน้นการลดก๊าซเรือนกระจกและการขอการรับรอง Carbon Footprint for Organization (CFO)
* การรักษาระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยภายใต้มาตรฐานสากล
**7. สรุป**
ในภาพรวม SLP มีการจัดการต้นทุนที่ดี ส่งผลให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ารายได้จะลดลงเล็กน้อย การนำผลประโยชน์ทางภาษีมาใช้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดด ฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่งขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้น บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงและพัฒนาความยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต
(6.34%)
(8.44%)
(9.26%)
(3.37%)
(3.14%)
(5.50%)
(90.01%)
(91.11%)
(460.52%)
(710.38%)
(57.10%)
(4.65%)