สรุปงบล่าสุด SKY
บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567
บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ด้วยรายได้รวม 1,715 ล้านบาท เติบโต 58.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลักดันจากการรวมผลประกอบการของบริษัท รักษาความปลอดภัยและบริหารธุรการ สยาม จำกัด (SAMCO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SKY ที่เข้าไปลงทุน 100% เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดย SKY ได้รวมรายได้ของ SAMCO เข้ามาแสดงในงบการเงินเต็มไตรมาส ส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจบริการด้านความปลอดภัยและการบริหารอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะได้เต็มจำนวน ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท วันทูวัน โปรเฟสชั่นแนล จำกัด (OTP) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้สามารถรวมรายได้ของ OTP เข้ามาแสดงในงบการเงินไตรมาส 3/2567 ได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ รายได้ค่าบริการบริหารจัดการงานลูกค้าสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น 45 ล้านบาท จากการเข้าลงทุนใน OTP ส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวได้ในไตรมาส 3/2567 เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของ SAMCO และ OTP ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นของ SKY รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของ SAMCO ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจ ส่งผลให้กำไรสุทธิของ SKY ในไตรมาส 3/2567 ลดลง 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
**รายได้จากการให้บริการอื่นๆ** เช่น โครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบหมู่บ้าน โครงการให้บริการรถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท จากจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสัญญาการให้บริการบำรุงรักษาระบบที่บริษัทได้มีการจำหน่ายและติดตั้ง
**ต้นทุนรวม** ในไตรมาส 3/2567 มีจำนวน 1,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงจาก 26.9% เป็น 18.2% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนจากการจำหน่ายและวางระบบแบบเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงกว่ารายได้ เนื่องจากโครงการที่รับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2567 มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าโครงการที่รับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2566 และต้นทุนจากการให้บริการที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงกว่ารายได้จากการให้บริการ เนื่องจากธุรกิจบริการดูแลความปลอดภัยและการบริหารอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะของ SAMCO มีต้นทุนค่าแรงงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างต่ำ
**ขาดทุนอื่น** ในไตรมาส 3/2567 ลดลง 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาส 3/2566 กลุ่มบริษัทมีกำไรจากจากการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงกว่าอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่กลุ่มบริษัทเข้าทำสัญญาป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ตามผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนมีจำนวนเงินลดลงในไตรมาส 3/2567 เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในงวดปัจจุบัน
**ค่าใช้จ่ายโดยรวม** ของกลุ่มบริษัท สําหรับไตรมาส 3/2567 มีจำนวน 229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากการรวมค่าใช้จ่ายของบริษัทที่กลุ่มบริษัทได้เข้าไปลงทุนในปี 2566 ได้แก่ บริษัท แอสโตร โซลูขั้นส์ จำกัด (“ASTRO”) และ SAMCO รวมถึงค่าใช้จ่ายของ OTP ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการของบริษัท และค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของกลุ่มบริษัท
## แผนธุรกิจในอนาคต
SKY ยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเฉพาะในส่วนของบริการความปลอดภัยอัจฉริยะ การบริหารจัดการอาคาร และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โดยอาศัยโอกาสจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับนักลงทุนในระยะยาว
## โอกาสและความเสี่ยง
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ SKY ในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจบริการความปลอดภัยอัจฉริยะที่มีการเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิที่ลดลง แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น และความท้าทายในการควบคุมต้นทุนในอนาคต ทั้งนี้ SKY มี D/E ที่ค่อนข้างต่ำ (ล่าสุดอยู่ที่ 1.43) แสดงถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจ โดยไม่มีภาระหนี้สินที่หนักเกินไป ในขณะเดียวกัน ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ SKY เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 28.39 แสดงถึงความคาดหวังที่สูงของนักลงทุน แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของการประเมินมูลค่าที่สูง
## เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทใด?
SKY เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากบริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโต และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบริการความปลอดภัยอัจฉริยะ ที่คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงจากการเติบโต และการควบคุมต้นทุนของ SKY
**โอกาส:**
- ธุรกิจบริการความปลอดภัยอัจฉริยะมีการเติบโตสูง
- การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
- ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
- โอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจ
- ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
**ความเสี่ยง:**
- อัตรากำไรสุทธิที่ลดลง
- ความท้าทายในการควบคุมต้นทุน
- การประเมินมูลค่าที่สูง
**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
- ลักษณะธุรกิจของบริษัท: ผู้รับเหมาระบบไอซีที
- อัตรากำไรขั้นต้น: 18.2% (ไตรมาส 3/2567)
- เก็บหนี้เฉลี่ย วัน: 58.92 วัน (ล่าสุด)
- ขายสินค้าเฉลี่ย วัน: 10.52 วัน (ล่าสุด)
- วงจรเงินสด: 4.5 ล้านบาท (ล่าสุด)
- เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน: 831.53 ล้านบาท (ปี 2566)
- เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน: 0 ล้านบาท (ปี 2566)
- อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้: 0.05 (ล่าสุด)
**หมายเหตุ:** ข้อมูลบางส่วนอาจไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน จึงอาจไม่สามารถนำมาแสดงในบทความนี้ได้
(5.14%)
(58.21%)
(7.97%)
(6.31%)
(12.46%)
(32.79%)
(10.35%)
(42.04%)
(6.09%)
(9.26%)
(3.97%)
(549.35%)