สรุปงบล่าสุด SGP

บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) ปี 2567
ในปี 2567 บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,318.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.61% จาก 1,017.59 ล้านบาทในปี 2566 แม้ว่ารายได้รวมจะลดลง 7.12% เหลือ 84,151.17 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศจากปริมาณการขายที่ลดลง ถึงแม้ว่าราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกโดยรวมจะสูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยราคาก๊าซเฉลี่ยปี 2567 และ 2566 อยู่ที่ 609 และ 576 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน ตามลำดับ ต้นทุนขาย บริการ และขนส่งลดลง 7.86% เหลือ 80,277.75 ล้านบาท ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 11.58% เป็น 3,873.42 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 4.60% สูงกว่าปี 2566 ที่ 3.83% กำไรขั้นต้นในช่วงหกเดือนแรกของปี 2567 โดยรวมสูงกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้อื่นลดลง 19.97% เนื่องจากการค่าปรับทางการค้าลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 2.32% เป็นผลมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตนั้น ข้อมูลที่เปิดเผยในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะประเมินได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการที่ผ่านมา SGP ยังคงมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักคือการจำหน่ายก๊าซ LPG และขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่นๆ การคาดการณ์ที่สำคัญคือการพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยน และความต้องการใช้ก๊าซ LPG ในประเทศต่างๆ การตั้งเป้ารายได้และยอดขายอาจมีความท้าทายเนื่องจากความผันผวนของราคาพลังงานและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
การพิจารณา SGP เป็นโอกาสในการลงทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าผลประกอบการในปี 2567 จะดีขึ้น แต่รายได้รวมยังคงลดลง และธุรกิจ LPG มีความผันผวนสูงตามราคาพลังงานโลก อัตราส่วน P/E ล่าสุดอยู่ที่ 7.18 ซึ่งอาจบ่งบอกว่าหุ้นมีราคาไม่แพงนักเมื่อเทียบกับกำไร แต่ต้องพิจารณาถึงความยั่งยืนของกำไรในอนาคตด้วย อัตราส่วน P/BV อยู่ที่ 0.81 ซึ่งแสดงว่าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี แต่ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของสินทรัพย์และหนี้สินของบริษัทประกอบกัน อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 3.55% ซึ่งอาจไม่สูงมากนัก แต่ก็ยังเป็นผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้ประจำ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) สูงถึง 2.25 เท่า ซึ่งบ่งบอกว่าบริษัทมีการใช้หนี้สินค่อนข้างมาก นักลงทุนควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทด้วย
**โอกาส:**
* ความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา
* การขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอื่นๆ
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
**ความเสี่ยง:**
* ความผันผวนของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก
* การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล
* ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
**ข้อมูลการเงินเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* **ลักษณะธุรกิจของบริษัท:** ธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG), ธุรกิจขนส่ง, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายถังก๊าซ LPG, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล
* **ราคาหุ้นเฉลี่ย:** มีความผันผวนตามสถานการณ์ตลาดและผลประกอบการของบริษัท
* **ข้อมูลทางการเงินอื่นๆ:** อัตรากำไรสุทธิ, วันเก็บหนี้เฉลี่ย, วันขายสินค้าเฉลี่ย, วันชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า, วงจรเงินสด
**สรุป:** การลงทุนใน SGP มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
(2.14%)
(10.47%)
(8.79%)
(36.65%)
(10.58%)
(29.12%)
(12.31%)
(12.43%)
(35.08%)
(63.98%)
(2,154.47%)
(313.69%)