สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) ปี 2567

บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (SCN) ในปี 2567 มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญหลายด้าน โดยสามารถชนะประมูลงานขนส่งก๊าซธรรมชาติให้กับ ปตท. เพิ่มเติมอีก 2 สัญญา ทำให้มีปริมาณขนส่งรวมกว่า 1.14 ล้านกิโลกรัมต่อวัน และยังชนะการประมูลงานปฏิบัติการและบำรุงรักษาสถานีก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ทั่วประเทศจาก ปตท. อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 4 โครงการ รวมกำลังผลิตในมือกว่า 20 เมกะวัตต์ และยังชนะคดีพิพาทหลุมก๊าซกับบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (ECOR) โดยศาลฎีกาพิพากษาให้ชดใช้และได้รับเงินเต็มจำนวนเป็นมูลค่า 49.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้บันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต และค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าและลูกหนี้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มจากโครงการรับเหมาก่อสร้าง ส่งผลกระทบต่องบการเงินโดยรวม

สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,595 ล้านบาท ลดลง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจจำหน่ายอะไหล่และให้บริการซ่อมบำรุงรถโดยสารปรับอากาศ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน แม้ว่าธุรกิจขนส่งจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 59% จากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงจากธุรกิจอื่นได้ กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ -217.449 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 167.821 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 12% จากการกู้ยืมธนาคารเพิ่มเติมเพื่อใช้สำหรับโครงการใหม่ๆ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น สินทรัพย์รวมลดลง 6.5% จากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และหนี้สินรวมลดลง 6.2% จากการจ่ายชำระเงินกู้ยืม

SCN ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล บริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยดำเนินโครงการต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม SCN ยังคงได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีอยู่ในระดับ "ดีมาก" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้

**การวิเคราะห์โอกาสในการลงทุน:**

การพิจารณา SCN เป็นโอกาสในการลงทุนในปัจจุบัน จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

**ความสัมพันธ์ของข้อมูลทางการเงิน:**

* **รายได้และกำไร:** รายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการขาดทุนสุทธิในปีล่าสุด เป็นสัญญาณที่ต้องระมัดระวัง แม้ว่าบริษัทฯ จะพยายามปรับตัว แต่การฟื้นตัวของรายได้และกำไรยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงอย่างมาก และอัตรากำไรสุทธิที่เป็นลบ บ่งชี้ถึงปัญหาในการควบคุมต้นทุนและการทำกำไร
* **D/E:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นถึงภาระหนี้สินที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต
* **ราคาหุ้นเฉลี่ย:** ราคาหุ้นเฉลี่ยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักลงทุน

**ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:**

* **การบอกเลิกสัญญา:** การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและซ่อมแซมรถโดยสารปรับอากาศกับ ขสมก. ส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทฯ
* **การด้อยค่าสินทรัพย์:** การบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
* **ต้นทุนทางการเงิน:** ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการใหม่ๆ ซึ่งอาจเป็นภาระต่อบริษัทฯ ในระยะยาว

**โอกาส:**

* **การชนะประมูลงานใหม่:** การชนะประมูลงานขนส่งก๊าซธรรมชาติและงานปฏิบัติการและบำรุงรักษาสถานีก๊าซธรรมชาติจาก ปตท. จะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้กับบริษัทฯ ในอนาคต
* **การขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน:** การลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน เป็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากแนวโน้มของโลกที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมากขึ้น

**ความเสี่ยง:**

* **ความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติ:** ราคาก๊าซธรรมชาติที่มีความผันผวน อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทฯ
* **การแข่งขันที่รุนแรง:** การแข่งขันในธุรกิจพลังงานมีความรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งทางการตลาดและกำไรของบริษัทฯ
* **ความล่าช้าในการดำเนินโครงการ:** ความล่าช้าในการดำเนินโครงการต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทฯ

**สรุป:**

การลงทุนใน SCN ในปัจจุบันมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากผลประกอบการที่ยังไม่ฟื้นตัว และภาระหนี้สินที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตจากการชนะประมูลงานใหม่ และการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ และติดตามผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจลงทุน