สรุปด้วย AI(O) BOT

**สรุปผลประกอบการ SCI Electric: บทวิเคราะห์เชิงลึกและโอกาสการลงทุน**

บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ทั้งผลิตและจำหน่ายตู้สวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟ, เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสาร, โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และบริการรับเหมาติดตั้งระบบส่งไฟฟ้า ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 1,332.67 ล้านบาท ลดลงจาก 1,607.80 ล้านบาทในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 558.97 ล้านบาท เหลือ 272.05 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่กระทบต่อผลประกอบการ ได้แก่ รายได้จากการขายที่ลดลง โดยเฉพาะจากส่วนงานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง นอกจากนี้ ยังมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ โดยเฉพาะสิทธิตามข้อตกลงสัมปทานบริการใน สปป.ลาว และการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม ถึงแม้รายได้จะลดลง แต่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมก็ลดลงเช่นกัน ส่วนหนึ่งมาจากการปรับราคาขายให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบ

SCI มีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 1,119.93 ล้านบาท ลดลงจาก 1,734.69 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดลงของเงินสด เงินลงทุน และสิทธิตามข้อตกลงสัมปทานบริการ ในขณะที่หนี้สินรวมลดลงเช่นกัน จาก 1,058.78 ล้านบาท เหลือ 716.17 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้การค้าและเงินกู้ยืมระยะยาว สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 1.52 เท่า เป็น 1.77 เท่า เนื่องจากการลดลงของส่วนของผู้ถือหุ้นตามผลการดำเนินงาน

สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตนั้น ข้อมูลที่มีอยู่ไม่ได้ระบุถึงแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตอย่างชัดเจน แต่การที่บริษัทสามารถลดผลขาดทุนสุทธิได้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการควบคุมต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาถึงโอกาสการลงทุนใน SCI จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบ

**โอกาส:**

* **การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐาน:** ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา
* **การลงทุนในพลังงานทดแทน:** การสนับสนุนจากภาครัฐและกระแสความยั่งยืนที่ผลักดันให้เกิดการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
* **ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน:** ความเชี่ยวชาญในการผลิตเสาไฟฟ้าแรงสูงและโครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์

**ความเสี่ยง:**

* **การแข่งขันสูง:** การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดตู้สวิทช์บอร์ดและเสาไฟฟ้า
* **ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ:** ความผันผวนของราคาเหล็กและสังกะสี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต
* **ความเสี่ยงด้านการลงทุนในต่างประเทศ:** ความเสี่ยงด้านกฎหมายและเศรษฐกิจในประเทศที่ SCI เข้าไปลงทุน เช่น สปป.ลาว และเมียนมาร์
* **ผลประกอบการผันผวน:** ผลประกอบการที่ยังคงผันผวนและขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง

**บทวิเคราะห์เพิ่มเติม:**

* **รายได้:** รายได้รวมลดลงแสดงถึงความท้าทายในการรักษาหรือขยายส่วนแบ่งตลาดในสภาวะการแข่งขันสูง
* **กำไร:** การที่ผลขาดทุนลดลงเป็นสัญญาณบวก แต่ยังคงต้องติดตามว่าบริษัทจะสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้อย่างยั่งยืนหรือไม่
* **อัตรากำไรขั้นต้น:** การปรับราคาขายให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ต้องพิจารณาว่าบริษัทสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่เหมาะสมได้หรือไม่
* **อัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรสุทธิยังคงติดลบ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและควบคุมค่าใช้จ่าย
* **D/E:** สัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการหนี้สินอย่างระมัดระวัง
* **วงจรเงินสด:** วงจรเงินสดติดลบแสดงถึงความท้าทายในการบริหารจัดการกระแสเงินสด
* **ราคาหุ้น:** ราคาหุ้นผันผวนตามผลประกอบการของบริษัท
* **P/E:** อัตราส่วน P/E ติดลบ เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุน
* **P/BV:** อัตราส่วน P/BV ใกล้เคียง 1 แสดงว่าราคาหุ้นใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี
* **YIELD:** อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Yield) เป็นศูนย์ เนื่องจากบริษัทไม่ได้จ่ายเงินปันผล

**สรุป:** การลงทุนใน SCI ในปัจจุบันมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากผลประกอบการยังไม่แน่นอน และมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม หากบริษัทสามารถพลิกฟื้นผลประกอบการและบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจในระยะยาว การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด