สรุป OPPDAY หุ้น SAK

บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
SAK Opportunity Day Q4/2024: สรุปผลประกอบการปี 2567 และทิศทางปี 2568
สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ของบริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในวันนี้จะเป็นการชี้แจงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 และประจำปี 2567 โดยมีคุณศิริพงษ์ บุญสารี และคุณเรณู วิราศรี เป็นผู้ชี้แจงและตอบคำถาม
- ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567
ณ สิ้นปี 2567 พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 14,268 ล้านบาท เติบโต 18.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลข NPL อยู่ที่ไม่เกิน 2.5% รายได้รวมของปี 2567 อยู่ที่ 3,124 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิของปี 2567 อยู่ที่ 839 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปีต่อปี
ณ สิ้นปี บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 1,029 แห่ง ใน 47 จังหวัด สำหรับปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับรางวัลและผลคะแนนในระดับองค์กรหลายรางวัล รวมถึง SET ESG Rating ในระดับ A ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4, การประเมิน Corporate Governance Report (CGR) ในระดับ 5 ดาว, และเป็นสมาชิกของ CAC (แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย)
- การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อ
พอร์ตลูกหนี้สินเชื่อในปีที่แล้วเติบโตขึ้น 2,198 ล้านบาท คิดเป็น 18.2% ส่วนของพอร์ตที่มีการเติบโตขึ้นมากที่สุดคือสินเชื่อประเภทสินเชื่อที่ดิน เพิ่มขึ้นมาประมาณเกือบ 1,100 ล้านบาท ถัดมาเป็นสินเชื่อทะเบียนรถ เพิ่มขึ้นมาเกือบเท่ากัน ประมาณ 1,010 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อโดยเฉลี่ย 4 ปี ย้อนหลังประมาณ 18% ต่อปี
พอร์ตสินเชื่อแยกตามประเภทหลักประกัน ส่วนใหญ่อยู่ในรถกระบะประมาณ 36.9% ถัดมาเป็นรถเพื่อการเกษตรประมาณ 16.5%, รถจักรยานยนต์อีกประมาณ 13.7%, ที่ดินประมาณ 9.2%, และรถเก๋งประมาณ 9%
- โครงสร้างรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
รายได้หลักของบริษัทมาจากสินเชื่อ รายได้จากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของสินเชื่อประเภทที่มีหลักประกัน โดยมีสัดส่วนถึง 86.7% ของรายได้รวม รายได้ในกลุ่มนี้อยู่ที่ 3,058 ล้านบาท ในปี 2567 ถ้าย้อนหลังไป 4 ปี รายได้ของบริษัทมีการเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 18.5% สอดคล้องกับการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในช่วงระยะเวลาเดียวกันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในปีที่แล้วยังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการอื่นๆ ได้แก่ การขายและบริการจากการให้บริการประกันวินาศภัยอีกประมาณ 66 ล้านบาท
- กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ
บริษัทมีการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ในระดับที่ดี อยู่ที่ 846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาจากปีก่อนหน้า โดยมีอัตรากำไรสุทธิ (NPM) อยู่ที่ 27.3% ในขณะที่ผลตอบแทนจากสินทรัพย์และผลตอบแทนผู้ถือหุ้นจะอยู่ที่ 5.9% และ 13.9% ตามลำดับ ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2567 อยู่ที่ 18.4% โดยมีอัตราดอกเบี้ยรับโดยเฉลี่ยของพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 23.4% ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยจ่ายก็คงตัวอยู่ที่ 5%
- คุณภาพพอร์ตสินเชื่อ
พิจารณาจากสัดส่วนลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแยกตามอายุลูกหนี้ที่ค้างชำระ (Aging) คุณภาพพอร์ตลูกหนี้ดี หนี้ Stage 1 อยู่ที่ 92.9%, หนี้ Stage 2 อยู่ที่ 4.7%, และหนี้ Stage 3 อยู่ที่ 2.5% ตัวเลขช่วงนี้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในช่วงปี 2565 และปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่พ้นวิกฤต COVID-19 บริษัทสามารถรักษาผลการดำเนินงานในด้านของพอร์ตลูกหนี้ไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ณ สิ้นปี บริษัทมีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตอยู่ที่อัตรา 2.5% ของพอร์ตสินเชื่อ ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทมี Coverage Ratio หรืออัตราส่วนของ ECL ต่อ NPL อยู่ที่ 100%
- ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
ผลิตภัณฑ์สินเชื่อของบริษัทโดยหลักยังเป็นสินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน คิดเป็น 76.5% ของพอร์ตสินเชื่อโดยรวม กลุ่มที่สองคือสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อ Nano Finance รวมกันแล้วอีกประมาณ 10% และมีสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อีกประมาณ 4.1% ของพอร์ตสินเชื่อโดยรวม ในปีที่แล้วบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อที่ดินขึ้นมาอีกประมาณ 9% - 9.2% ของพอร์ตสินเชื่อโดยรวม และมีรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ทั้งหมดนี้คือแหล่งรายได้หลักของบริษัทในปีที่ผ่านมา
- การขยายสาขาและจำนวนพนักงาน
ในปีที่แล้วบริษัทไม่ได้ขยายสาขาเพิ่ม ทำให้จำนวนสาขายังอยู่ที่ 1,029 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2568 จะเพิ่มสาขาอีกประมาณ 50 แห่ง ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ตอนนี้ดำเนินการไปเกือบจะหมดทุกที่แล้ว ณ สิ้นปี 2567 มีจำนวนพนักงานอยู่ 2,696 คน เกือบ 2,700 คน เพิ่มขึ้นมาจากปี 2566 ประมาณ 160 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวและเตรียมการที่จะขยายสาขาในต้นปี 2568
- แผนงานและเป้าหมายปี 2568
ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายพอร์ตลูกหนี้ไว้ที่ 14,300 ล้านบาท ซึ่งทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในขณะที่ปี 2568 ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เติบโตขึ้นมาจากปลายปี 2567 อีกประมาณ 15% ทำให้พอร์ตสินเชื่อจะไปจบปี ณ สิ้นปีอยู่ที่ 16,800 บาท
บริษัทตั้งเป้า NPL ไว้ที่ประมาณ 2.50% จะไม่ต่างไปจากปี 2567 ที่ผ่านมา จำนวนสาขาจะเพิ่มมาเป็นอีก 50 แห่ง ในช่วงต้นปี และถ้ามีจังหวะโอกาสที่ดีก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาจากจำนวนนี้ขึ้นไปเป็น 1,100 แห่ง
- บริษัท ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์จี
เมื่อปลายปี 2567 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาแห่งหนึ่งชื่อว่า ศักดิ์สยาม โซลาร์ เอ็นเนอร์จี โดยที่ศักดิ์สยามลิสซิ่งเข้าไปถือหุ้น 100% ในบริษัทนี้ ธุรกิจในการรับจัดหาเรื่องของวัสดุอุปกรณ์และรับติดตั้งผลิตภัณฑ์ Solar Roof ให้กับบ้านเรือนทั่วไปและให้กับธุรกิจ SME ที่อยู่ในต่างจังหวัดในภูธร
- โครงสร้างผู้ถือหุ้น
โดยหลักก็ยังคงเดิม โดยทางครอบครัวบุญสารีซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ยังถือหุ้นอยู่รวมกันแล้ว 67.99% ลำดับถัดมาจะเป็นบริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทมาตั้งแต่ก่อนจะเข้าตลาดเมื่อปี 2563 ก็ยังถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 7.16%
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้นที่นาที 25:14
- เป้าเครดิตคอสปี 2568
คำถาม: ด้วยเป้า NPL Ratio เท่ากับ 2.5% อยากทราบเป้าเครดิตคอสในปี 2568 ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่าปี 2567 และที่มากกว่าน้อยกว่าเพราะอะไร
คำตอบ: การตั้งสำรองจะเห็นว่าอัตรา NPL 2.5% และในขณะเดียวกันก็ตั้งสำรองไว้ประมาณ 100% นั่นหมายถึง 2.5% ของพอร์ตรวมทั้งหมดด้วย ดังนั้น Ratio นี้ก็ยังคิดว่ายังเป็นเป้าเดิม ดังนั้นถ้าสิ้นปีมีพอร์ตสินเชื่อที่ 16,800 ด้วยอัตรา 2.5% ก็จะอยู่ประมาณเป็นการตั้งสำรองที่ 400 กว่าล้าน ดังนั้นก็จะทำให้เพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้วก็คาดว่าน่าจะประมาณสัก 50-60 ล้านที่จะเพิ่มขึ้น แต่ว่าในการตั้ง ECL หรือว่าค่าเผื่อในการด้อยค่า อันนี้ก็ตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่ให้สินเชื่อเลย ทุกๆ ชั้นที่มี
- เป้าสินเชื่อโต 15% ปี 2568 มาจากกลุ่มใด
คำถาม: ด้วยสภาพตลาด ยอดขายรถใหม่ที่ติดลบประมาณ 20-30% มาโดยตลอด อยากทราบว่าเป้าสินเชื่อที่โต 15% Year on Year ในปี 2568 หลักๆ จะมาจากกลุ่มใด
คำตอบ: ลูกค้าหลักประมาณ 65% จะเป็นลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัด อยู่ในภูธร และประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเกษตรกรรม ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาในเรื่องของในช่วงครึ่งปีแรกมีเอลนิโญ่และก็ตามมาด้วยลานิญา แต่เกษตรกรก็ยังสามารถทำการเพาะปลูกได้ มีผลผลิตออกมา และมีความสามารถในการที่จะชำระหนี้ได้ดีอยู่ ในปีหน้าหลักๆ แล้วการเติบโตก็มาจากการขยายสินเชื่อให้กับลูกหนี้ในกลุ่มนี้
- แหล่งเงินทุนขยายพอร์ตสินเชื่อ
คำถาม: การขยายพอร์ตสินเชื่อจะนำ Funding หรือว่าจะเป็นการขายหุ้นกู้ หรือจะเป็นการกู้ธนาคาร
คำตอบ: สำหรับ Funding ในปี 2568 ได้มีการพูดคุยกับธนาคารแล้วก็คิดว่าในปี 2568 ธนาคารจะสนับสนุนเต็มจำนวนโดยที่ไม่ได้ออกหุ้นกู้เพิ่ม ทาง CFO ก็ได้เตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
- แนวทางการจัดการลูกหนี้ NPL
คำถาม: ลูกหนี้ NPL ของบริษัทจะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า บริษัทมีแนวทางจัดการลูกหนี้ NPL อย่างไร
คำตอบ: มีหลายขั้นตอนหลายระดับ ถ้าเป็นลูกหนี้ NPL โดยทั่วไปก็จะเริ่มจากการเจรจา ก่อนที่จะมีการยึดหลักประกัน ตอนนี้มีมาตรการ Responsible Lending จะต้องให้โอกาสกับทางลูกหนี้เข้ามาทำการไถ่ถอนหลักประกันไปก่อน มีการส่งจดหมายแจ้งเตือน แจ้งให้ถึงโอกาสที่เขามีอยู่ อาจจะต้องช่วยลูกค้าขายหลักประกัน ในปีที่แล้วมีลูกหนี้เข้ามาประมาณ 2,000 ที่จำเป็นจะต้องเอามาช่วยขายได้ประมาณ 2,000 กว่าท่าน ขายไปได้เกือบทั้งหมด ส่วนที่เหลือมาเจรจาให้ลูกหนี้มาชำระในส่วนที่เหลือ มาตรการสุดท้ายก็จะเป็นเรื่องของการฟ้องคดี
- รายได้อื่นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น
คำถาม: รายได้อื่นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากอะไร
คำตอบ: ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของรายได้จากค่าคอมมิชชั่นที่เป็นนายหน้าขายประกัน ส่วนอันที่สองก็จะมีรายได้จากการขายสินค้าประเภทโซลาร์
- บริษัทตั้งเป้าหมายแบบ Aggressive
คำถาม: จะมีสัญญาณใดที่เช่นเศรษฐกิจ หรือมีสัญญาณที่จะบอกว่าบริษัทจะตั้งเป้าหมายแบบ aggressive
คำตอบ: ช่วงนี้มันน่าจะเป็น Consensus ถ้าดูทั้งระดับสถาบันการเงินก็ดี หรือว่าคู่แข่งอื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันกับของศักดิ์สยาม ทุกคนก็จะตั้งเป้าอยู่ระหว่าง 10-20% ในปี 2568 ปีที่แล้วตั้งเป้าเติบโตเอาไว้ 15% แต่ถึงเวลาทำได้จริงประมาณ 18% ปี 2568 ก็คิดว่าตั้งเป้าไว้ 15% เหมือนกัน แต่ถ้าจังหวะและโอกาสดีมันก็อาจจะมีโอกาสทำได้มากกว่านั้น
- เงินสดบริษัทลดลง แต่พอร์ตลูกหนี้สูงขึ้น
คำถาม: เงินสดของบริษัทลดลง แต่พอร์ตลูกหนี้สูงขึ้น บริษัทมีแนวทางการจัดการในทุนปี 2568 อย่างไร
คำตอบ: เงินสดของบริษัทลดลงถ้าเทียบจากปีก่อน อันนี้คือเป็นการบริหารการจัดการของทางฝ่ายการเงิน เพราะว่าถ้าเราเก็บเงินไว้ในบริษัทสูงๆ ก็จะทำให้เสียดอกเบี้ยสูงด้วย เพราะฉะนั้นก็เป็นการบริหารค่าใช้จ่ายต้นทุนดอกเบี้ย การจัดการเงินทุนในปี 2568 โดยการกู้ยืมจากธนาคาร แต่ว่า Cash Flow เป็นบวกทุกเดือน
- แผนการเพิ่มสาขาปี 2568
คำถาม: ปี 2025 คือปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มสาขาหรือไม่
คำตอบ: ประมาณ 50 แห่ง ในเดือนมีนานี้ก็จะครบทุกแห่งแล้ว
- แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจ่ายปีนี้
คำถาม: แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจ่ายในปีนี้เป็นอย่างไร
คำตอบ: สำหรับอัตราดอกเบี้ยจ่าย สำหรับปีที่แล้วทางบริษัทได้มีการเจรจาเพื่อที่จะลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบริหารค่าใช้จ่าย คือสำหรับปี 2568 นี้ คาดว่าโดยเฉลี่ยก็จะมีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ประมาณ 4.6-4.7 ซึ่งอันนี้คือไม่เกี่ยวข้องกับการลดจากทางภาครัฐที่เป็นกนง. ดังนั้นถ้าสมมุติว่าปีนี้ทางกนง. มีการปรับลดดอกเบี้ย อันนี้ก็จะเป็นผลบวกกับบริษัท
- การชื่นชมผู้บริหารและวางกลยุทธ์
คำถาม: ชื่นชมผู้บริหารที่วางกลยุทธ์การดำเนินงานให้เติบโตอย่างเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ และขอบคุณที่มาให้ข้อมูลนักลงทุนทุกไตรมาส
คำตอบ: ขอบพระคุณที่กรุณาติดตามเรามาโดยตลอด
- ผลประกอบการบริษัท ย่อย
คำถาม: ผลประกอบการบริษัท ย่อยเป็นอย่างไรบ้าง และมีเป้าหมายเติบโตอย่างไร ปัจจุบันสามารถทำกำไรได้หรือยัง
คำตอบ: ตัวบริษัท ย่อยบริษัท แรกคือเมเกอร์โดรน ปีที่แล้วกับปี ก่อนหน้า นั้นประสบปัญหาในเรื่องของ การให้บริการการขายโดรน แล้วก็การให้บริการฉีดพ่นแต่ปีนี้ยังดำเนินการต่อ เราก็เลยไปหาแปลงฉีดพ่นที่ดูว่าค่อนข้างจะแน่นอน เป็นลูกค้าต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วแล้วก็ปี ก่อนหน้า นั้นตอนนี้ก็มีลูกค้าล็อกเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี ค่อนข้างจะเชื่อมั่นว่าปีนี้เรื่องบริการฉีดพ่น แล้วก็การขายโดรน น่าจะเข้าเป้า รวมถึงได้มีการเรียก ว่าประดิษฐ์โดรน ในรุ่นที่ที่ใหญ่ขึ้น แล้วก็เพิ่มวัตถุประสงค์ของโดรน เป็นโดรนสำหรับกู้ภัยเพิ่มขึ้นมา ในส่วนของตัว โซลาร์ Roof นะครับ อันนี้ก็ ที่เรานำมาทำเป็นศักดิ์ โซลาร์ นะครับ อันนี้ก็เป็นทีมงานทีมงาน ดึงที่ที่ศักดิ์สยามเคยส่งไปช่วยนะครับ ในสมัยที่ยังร่วมทุนอยู่ แล้วก็เป็นทีมงานที่มีประสบการณ์นะครับมี ความพร้อมระบบ งานก็ดีนะครับทั้งทีมงานหลังบ้านแล้วก็ทีมงานที่อยู่หน้าบ้านที่ ออกไปทำการติดตั้ง นะครับก็ผมคิดว่าจากประสบการณ์นะครับ การเรียนรู้ที่เราได้มา 2 ปีเนี่ยตอนที่ทำ STC เนี่ยนะครับก็เราได้เริ่มทำ ศักดิ์สยามโซลาร์ ของเราขึ้นมาเนี่ยประมาณ 3 เดือน ก็มาในทิศทางที่ดีขึ้นนะครับ ก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามา ลูกค้า ใหญ่ๆ เนี่ยก็ติดต่อเข้ามา ให้เราเข้าไปดูแล้วก็ได้งานมานะครับ ที่เป็นการ มาจากการแนะนำบอกต่อของลูกค้าเองมากขึ้นนะครับผมก็คิดว่าเดี๋ยวประมาณสักน่าจะประมาณสักสิ้นไตรมาส 1 ไตรมาส ที่ 2 เนี่ยคงจะเห็นได้ชัดครับว่ามันจะมีส่วนในการสร้างรายได้ นะครับเพิ่มขึ้นมาได้เท่าไหร่ แต่เราค่อนข้างจะเชื่อมั่นว่ามันน่าจะไปได้ดี
- โครง การคุณสู้เรา ช่วยส่งผล อย่างไร ต่อบริษัท
คำถาม: โครง การคุณสู้เรา ช่วยส่งผล อย่างไร ต่อบริษัท
คำตอบ: โครง การคุณสู้เรา ช่วยเนี่ยเรา พิจารณากันแล้วเนี่ยเรา เชื่อว่ามันคงจะส่งผล นะครับดีนะครับในการให้การช่วยเหลือลูกหนี้ นะครับ อ่า โดยเฉพาะที่เป็นลูกหนี้ ที่เป็นลูกหนี้ซื้อบ้าน ลูกหนี้ซื้อรถยนต์ คัน ใหญ่ๆ รถยนต์ ป้ายแดง เนี่ยแหละครับคงจะมีส่วนช่วยได้บ้างได้ ได้มากได้ได้มาก แต่ว่ากับลูกหนี้ ของศักดิ์สยามเนี่ยอันนี้เป็นเป็นลูกหนี้ ในภูธรระดับราก นะครับก็ เป็น สินเชื่อที่นำไป ใช้ในการหมุนเวียนในการทำอาชีพนะครับ ก็อาจจะ อาจจะไม่ได้ไม่ได้มีผลกระทบมากนักนะครับ
- แหล่งเงินทุนในปีนี้
คำถาม: แหล่งเงินทุนในปีนี้จะมาจากแหล่งใด
คำตอบ: ธนาคารยังสนับสนุนอยู่
- ยอดปล่อยสินเชื่อ Year to date ไตรมาส 1
คำถาม: ยอดปล่อยสินเชื่อ Year to date ครับไตรมาส 1 โอ๋ยังไม่ถึงไตรมาสเเเรก พึ่งผ่านมาเเค่ 2 เดือนนะครับ
คำตอบ: ปกติมันจะมีไซเคิล อยู่นะครับว่าช่วงต้นปีเนี่ยก็คือเป็นช่วง ที่เกษตรกร 65% ของลูกค้าแล้วเขาได้ผลผลิตนะอ้อยออกนะกำลังตัดอ้อยเข้าโรงงานข้าวออกมาเมื่อประมาณปลายปีช่วงนี้ เขาจะนำเงินมาคืนนะใน การเติบโตของสินเชื่อเนี่ยจะไม่มากไม่มากเท่ากับในช่วงไตรมาส ที่ 2 ไตรมาส ที่ 3 นะครับ แต่ว่าผอศ ก็ไม่ได้ หด ลงนะครับก็ยังมีการเพิ่มขึ้นอยู่เพียงแต่มันจะยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่านั้นเอง
- จาจุ่มเน้นการปล่อยสินเชื่อที่ดินมากกว่าจํานําทะเบียนหรือไม่
คำถาม: จากุ่มเน้นการปล่อยสินเชื่อที่ดินมากกว่าจำนำทะเบียนหรือไม่
คำตอบ: อ๋อไม่ครับ อันนี้มันเป็นเพียงแค่แค่แค่ส่วนเสริมเท่านั้นเองนะครับ
- ปีนี้จะมีสินเชื่อใหม่ๆ เพิ่มเติมมั้ย
คำถาม: ปีนี้จะมีสินเชื่อใหม่ๆ เพิ่มเติมมั้ย แล้วที่ตั้งเป้าสินเชื่อ นี้ปีน่าจะเป็นปี นี้นะคะ กี่ร้านนะคะ
คำตอบ: น่าจะโตมาประมาณ 15% นะครับ ประมาณ 2,500 ล้านได้มั้ย อ่าผมบวกลบเร็วๆ นะครับ อือ สินเชื่อใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ สินเชื่อใหม่ๆ เพิ่มเติม มั้ย ก็น่าจะมีสินเชื่อที่ เป็นลักษณะของ การส่งเสริมอาชีพนะครับ ปีที่แล้วเราก็ได้เริ่มทำ ขึ้นมาหลายอย่างเหมือนกัน ทั้งสินเชื่อที่ดินนะครับ สินเชื่อ เอ่อปัจจัย การผลิตนะครับให้กับ ให้กับเกษตรกรนะครับ ปีนี้ก็น่าจะมีเพิ่มขึ้นมาอีก
- ในสถานการณ์เเบบไหนที่บริษัทจะเริ่มตั้งเป้าโต 30%
คำถาม: ในสถานการณ์แบบไหนที่บริษัทจะเริ่มตั้งเป้าโต 30%
คำตอบ: เอ่ออันนี้เรียนตรงๆ เลยนะครับก็ถ้าเจอ บริษัท ไหนเนี่ยก็ผมคงจะต้องขอ ขอเข้าไปเข้าไปคุย เข้าไปดูงานแล้วครับว่าทำได้ยังไงนะครับ เอ่อผมผมค่อนข้างจะคิดว่า พอดีฐานลูกค้าเราเนี่ยมันมันมันเป็นฐานลูกค้า แบบในในระดับภูมิภาคแล้วก็ก็ต้องดูในเรื่องของสภาวะการหารายได้นะครับ สภาวะหนี้ที่ครัวเรือน สภาวะการทำมาหากิน อย่างเช่นเรื่องของราคา เอ่อผลผลิตนะครับ เอ่อแล้วก็ปริมาณผลผลิตที่ได้ นะครับผม ผมผมพยายามคาดเดาไปให้ดีที่สุดแล้วนะครับว่าปีเนี้ย 15% เนี่ยจะทำให้ได้อย่างที่อย่างที่แจ้งเอาไว้ไม่น้อยไปกว่านี้ แต่ถ้าจะให้มากกว่านี้ไปมากๆ เนี่ยยังยังไม่มั่นใจ
- รถยนต์ Ev เข้ามาทำให้ราคาประกันรถยนต์มือสอง สดับลดลง
คำถาม: รถยนต์ Ev เข้ามาทำให้หลักประกันรถยนต์มือสอง สดับลดลง จะส่งผลกระทบต่อบริษัทในอนาคตหรือไม่ ผู้บริหารมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
คำตอบ: เรื่องราคา รถยนต์ มือสองที่ลดลงเนี่ยผม ผมคิดว่าส่วนหนึ่งมันเกิดจาก เอ่อภาวะเขาเรียกนะฮะเรา ที่ผ่านมาหลายๆ ปีเนี่ย เราผลิตรถแล้วก็มีการ ส่งเสริมให้คนไทยเนี่ยซื้อรถ นะครับกันมากนะครับกันมากแล้วก็เป็นการซื้อโดยใช้เงินจากจากจากสินเชื่อนะครับคือไม่ได้ ไม่ได้ซื้อ ด้วยด้วยเงินเงินเงินออมของตัวเอง พอ มันผ่านมาหลายๆ ปีเนี่ยมันก็น่าจะถึงจุดที่ว่าเอ๊ะ ประชาชนก็ส่งต่อไม่ไหว ยกตัวอย่างเช่นนะครับ หนึ่งครัวเรือนเนี่ยมีพ่อแม่มีลูกในวัยทำงาน 2 คนจะมีรถในบ้านเนี่ย 3-4 คันนะครับ ซึ่ง แล้วก็แต่ละคันเนี่ยก็อาจจะมีสัก 2-3 คันที่ว่าก็ยังผ่อนอยู่ คือมันถึงจุดที่ว่า ไม่ว่าจะมีรถ EV หรือไม่มีรถ EV เนี่ย คือรถสันดานมันจะขายได้น้อยลงอยู่แล้ว นะครับแล้วก็ ปรากฏ ปรากฏ ประกอบ กับมันมีเรื่องของการยึดรถเข้ามามากขึ้นนะครับ มันเลยทำให้ราคา รถ น้อยลง ผมคิดว่าเหตุปัจจัยหลักมันไม่ได้มาจากรถ EV อย่างเดียว
- การขยายสาขาลดลง
คำถาม: การที่บริษัทขยายสาขาลดลงจาก 200 สาขาเหลือ 50 สาขาต่อปี จะมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรบริษัทในอนาคตหรือไม่
คำตอบ: อย่างในปี 2567 ไม่ได้เพิ่มสาขาขึ้นมาเลย ก็คิดว่ายังสามารถทำให้พอร์ตสินเชื่อรายได้จากการให้สินเชื่อแล้วก็มีกำไรเพิ่มขึ้นมาได้ อันนี้ก็คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีมากมันก็เป็นอะไรที่ที่อยู่ในใจอยู่ในการคิดคำนึงเหมือนกัน
- บริษัท ลดการขยายสาขาลงในช่วง 2 ปี
คำถาม: บริษัท ลดการขยายสาขาลงในช่วง 2 ปี แต่คู่แข่งมีการเร่งขยายสาขา ผู้บริหารช่วยอธิบายเหตุผลและผลที่จะเกิดขึ้นค่ะ
คำตอบ: ถ้าไปแข่งกัน ผมเชื่อว่าตอนเนี้ยถ้าดูดูจากคู่แข่งรายใหญ่คงคงไม่ได้มีแค่ MTC เจ้าเดียวนะครับ มีคู่แข่งรายใหญ่ อื่นๆ แล้วก็ที่ทุ่งมีเกิดขึ้นมาด้วยเนี่ย ก็แข่งกันให้สินเชื่อด้วยการเปิดขยายสาขา ผมคิดว่าการจะแข่งขันกันด้วยการให้มีสาขาจำนวนมากๆ เนี่ย ก็อาจจะทำให้ต้องลงทุนมากขึ้นแล้วก็มีระยะเวลาในการคืนทุนน่ะคือผลตอบแทนที่จะกลับมามันจะช้าลง ทีนี้เราก็คงจะเปลี่ยนวิธีการนะครับ ในการที่จะหาลูกค้าอะไรได้เพิ่มนะครับโดย ที่ไม่ต้องไป มันสามารถครอบคลุมพื้นที่ไปได้มากขึ้นนะครับ
- แผนขยายสาขาลงภาคใต้
คำถาม: บริษัทมีแผนขยายสาขาลงไปทางภาคใต้ไหมครับ
คำตอบ: อ๋อยังครับ เดี๋ยวมันมันมันยังต้อง ต้องผ่านไปอีกหลายที่นะครับตอนนี้ในเวลานี้ยังนะครับ
โดยสรุปแล้ว งาน Opportunity Day ของศักดิ์สยามลิสซิ่งได้ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในปี 2567 และแผนการในอนาคตปี 2568 บริษัทมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ การบริหารความเสี่ยงที่ดี และการขยายธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป