สรุปงบล่าสุด ROJNA
บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 พลิกฟื้นจากขาดทุนเป็นกำไรสุทธิ 729.02 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2566 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 125.93 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น อันเนื่องมาจากมีลูกค้าถึงกำหนดชำระเงินงวดสุดท้ายและโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในโครงการอยุธยา และชลบุรี นอกจากนี้ รายได้ค่าบริการและค่าเช่าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างโรงงาน อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายไฟฟ้ากลับลดลง เนื่องจากค่าไฟฟ้าลดลง
แผนธุรกิจในอนาคตของ ROJNA ยังคงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปนิคมอุตสาหกรรม โดยเน้นการขยายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรม บริษัทตั้งเป้ารายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงความต้องการพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
ROJNA ถือเป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจ โดยพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่พลิกฟื้น และผลประกอบการในอดีต เช่น ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1937.82 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (2562-2567) อยู่ที่ 6.17 บาท สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น อัตราส่วนทางการเงินก็อยู่ในระดับที่ดี โดย D/E อยู่ที่ 1.52 P/E อยู่ที่ 12.67 และ P/BV อยู่ที่ 0.65 สะท้อนถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และความคาดหวังของนักลงทุนที่อยู่ในระดับปานกลาง นอกจากนี้ ROJNA ยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (YIELD) ที่น่าสนใจ เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 5.48% และวงจรเงินสดอยู่ในระดับดี โดยเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 235.63 สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการจัดการเงินสด และความสามารถในการสร้างกำไร เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 1503.73 ล้านบาท สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ -262.37 ล้านบาท สะท้อนถึงการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว ROJNA เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการรับเงินปันผลและเติบโตไปกับธุรกิจ
**โอกาส**
* อุตสาหกรรมนิคมอุตสาหกรรมยังคงเติบโต และมีความต้องการพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
* บริษัทมีแผนขยายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ
* บริษัทมีธุรกิจต่อเนื่องที่สามารถสร้างรายได้และกำไรเสริมได้
* บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ
**ความเสี่ยง**
* เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง
* ค่าใช้จ่ายในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอาจเพิ่มขึ้น
(51.19%)
(24.08%)
(123.43%)
(42.48%)
(47.72%)
(14.81%)
(59.48%)
(46.05%)
(583.44%)
(527.82%)
(21.55%)
(61.38%)