สรุปงบล่าสุด RJH
บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ 212.41 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 26.5% โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 793.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% QoQ และ 28% YoY ผลจากการเปิดโรงพยาบาลใหม่และการลดต้นทุน รวมทั้งการเพิ่มรายได้จากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
RJH เปิดโรงพยาบาลราชธานีหนองแค 134 เตียง และโรงพยาบาลรังสีรักษา จำนวนผู้ป่วยนอก 86,200 คน เติบโต 8% QoQ และ YoY รายได้ต่อผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 2% YoY สู่ระดับ 2,160 บาท รายได้ผู้ป่วยใน 198.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% QoQ และ YoY วันนอนเพิ่มขึ้น 21% สู่ 9,600 วัน รายได้ต่อวันนอนอยู่ที่ประมาณ 20,700 บาท ลดลง 7% เนื่องจากสัดส่วนคนไข้ที่ไม่มีการทำหัตถการลดลง อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 65% เพิ่มขึ้น 8% QoQ แต่ลดลง 8% YoY การ admit ของผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
บริษัทมีแผนขยายสาขาทั่วประเทศ ลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มรายได้ในกลุ่มประกันสังคม รายได้จากประกันสังคมสูงสุดที่ 409.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% QoQ และ 52% YoY จากเคสซับซ้อนและการปรับปรุงรายได้ ผู้ประกันตนเฉลี่ยในไตรมาสนี้ 213,800 ราย เพิ่มขึ้น 1,000 คน QoQ และ 2,500 คน YoY บริษัทมีแผนลงทุนในโรงพยาบาลและสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH ได้เปิดดำเนินการโรงพยาบาลราชธานีหนองแค ซึ่งมีขนาด 134 เตียง ตั้งอยู่ที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ต้นทุนโครงการรวม 890 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อปีอยู่ที่ประมาณ 45 ล้านบาท นอกจากนี้ โรงพยาบาลรังสีรักษา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านรังสีรักษาโรค ได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อมกราคม 2567 ปัจจุบันมีคนไข้ประมาณ 75% ส่งต่อจากโรงพยาบาลในกลุ่มบริษัท ล่าสุด สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้อนุมัติให้โรงพยาบาลเป็นคู่สัญญา ส่งผลให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการภายใต้ นโยบาย ๐ลก๐๑ 2กหพกล ภายในพฤศจิกายน 2567 ซึ่งจะเพิ่มรายได้จากคนไข้อื่น ๆ นอกเหนือจากที่ส่งต่อภายในกลุ่มบริษัท ด้านงบการเงินของบริษัท ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 793.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อน 14% และ เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 306.38 ล้านบาท คิดเป็น 38.6% ของรายได้ กำไรสุทธิอยู่ที่ 212.41 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 26.5% ปรับตัวดีขึ้นทั้งจำนวนเงินและอัตรากำไรสุทธิ อันเป็นผลมาจากรายได้ที่เติบโตดีขึ้น ตลอดจนผลประโยชน์ทางภาษี
ในส่วนของแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้และส่วนแบ่งการตลาด โดยเน้นการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประกันสังคม และการให้บริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร
ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตรากำไรสุทธิที่สูงถึง 26.5% และแผนการขยายธุรกิจที่มั่นคง RJH อาจจะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะยาว บริษัทฯ มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มี D/E ที่ต่ำกว่า 1 ซึ่งสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง และมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่สูง แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม P/E ของ RJH อยู่ที่ 13.52 ซึ่งแม้จะไม่สูงมากนัก แต่ก็ยังคงบ่งบอกถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่สูง
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาความเสี่ยง ดังนี้
* ความเสี่ยงจากการแข่งขัน เนื่องจากมีโรงพยาบาลเอกชนรายอื่น ๆ เกิดขึ้นมากมาย
* ความเสี่ยงจากนโยบายของรัฐบาล เช่น การปรับลดอัตราจ่ายค่ารักษาพยาบาล
* ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ด้านสุขภาพ
โดยสรุป RJH เป็นบริษัทที่มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ควรพิจารณาความเสี่ยง และความคาดหวังผลตอบแทนของนักลงทุนอย่างรอบคอบ RJH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว เพื่อรอการเติบโตของธุรกิจ หรือรับเงินปันผล มากกว่านักลงทุนที่เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น
(13.64%)
(27.13%)
(31.09%)
(52.25%)
(15.38%)
(19.76%)
(8.78%)
(69.09%)
(80.20%)
(77.29%)