สรุปงบล่าสุด QTC
บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวม 376.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายสินค้าสำเร็จรูป (หม้อแปลงไฟฟ้า) เพิ่มขึ้น 8.53% สู่ระดับ 269.39 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะการส่งมอบหม้อแปลงไฟฟ้าให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ส่วนรายได้จากการขายกระแสไฟฟ้าจากบริษัทย่อยทางอ้อม ลดลง 9.67% เหลือ 10.74 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรต่อหน่วยที่ปรับลดลง ขณะที่รายได้จากธุรกิจโซลาร์เซลล์ลดลง 9.66% เหลือ 80.22 ล้านบาท เนื่องจากการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น บริษัทฯ จึงต้องปรับลดราคาขายเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
QTC มุ่งเน้นการขยายธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่การขายไปจนถึงการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านบริษัทย่อย บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
จากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 QTC มีกำไรสุทธิ 8.94 ล้านบาท ลดลง 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนทางการเงินบางส่วนแสดงถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ เช่น D/E ต่ำกว่า 1 (0.14) สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคง และการมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวก (181.51 ล้านบาท) บ่งบอกถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิที่ลดลง (จาก 15.19% ในปี 2566 เหลือ 2.38% ในปี 2567) และการมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ (-357.58 ล้านบาท) อาจส่งผลต่อความน่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในระยะสั้น ส่วนราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง (3Q2567 = 4.03) ต่ำกว่าระดับราคาเฉลี่ย 5 ปี (6.15) และ P/E ล่าสุดอยู่ที่ 11.27 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (20.17) สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ลดลง
โดยรวมแล้ว QTC เป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แต่ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา (3Q2567) ไม่ค่อยน่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายธุรกิจแบบครบวงจรและการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ อาจเป็นจุดเด่นที่น่าจับตามองในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
**โอกาส**
* การขยายธุรกิจแบบครบวงจร (การขาย ติดตั้ง และบำรุงรักษา) ช่วยเพิ่มความเหนียวแน่นของลูกค้า
* การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
* ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (D/E ต่ำกว่า 1) ช่วยให้บริษัทฯ สามารถกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้น
**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันในตลาดสูงขึ้น
* ราคาวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
* ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล
**เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทใด**
* นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
* นักลงทุนที่ไม่เกี่ยงงอนกับผลตอบแทนในระยะสั้น
* นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสได้รับเงินปันผล (YIELD ล่าสุด 5.26%)
(33.39%)
(4.05%)
(13.76%)
(11.56%)
(14.71%)
(15.02%)
(2.26%)
(39.29%)
(4.51%)
(74.33%)
(344.70%)
(110.97%)