สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG มีผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 730.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 436 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 148.1 เนื่องจากบริษัทได้รับรู้รายได้จากงานก่อสร้างโครงการตามสัดส่วนความสำเร็จของการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ผลจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 12.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิสะสม 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1,183.1 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) คิดเป็น 0.11 เท่า ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

บริษัทมีแผนที่จะมุ่งเน้นการรับงานก่อสร้างจากภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการที่กำลังดำเนินการและฐานลูกค้าที่มีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทในตลาดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวทางในการแสวงหารายได้เพิ่มจากโครงการก่อสร้างใหม่หรือธุรกิจใหม่ โดยต่อยอดจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีความพึงพอใจในผลงานของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด บริษัทมีกำไรสุทธิ 12.8 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิสะสม 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1,183.1 ล้านบาท แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง อัตราส่วน D/E ที่ต่ำเพียง 0.11 เท่า สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และยังคงมีโอกาสในการขยายธุรกิจได้อีกมาก อัตราส่วน P/E ณ ไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 71.34 ส่วน P/BV อยู่ที่ 18.87 ทั้งสองอัตราส่วนแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นของ PSG สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนในระดับสูง และสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพของบริษัท ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังของ PSG อยู่ที่ประมาณ 0.91 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 0.56 บาท จึงอาจถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นพื้นฐานดีในราคาที่ถูกลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีโอกาสในการลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรคำนึงถึง ดังนี้
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ความสามารถในการบริหารงานโครงการก่อสร้าง
* การแข่งขันในอุตสาหกรรม
* การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของรัฐบาล

โดยรวมแล้ว PSG ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นพื้นฐานดี แต่เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่พร้อมรับความเสี่ยง เนื่องจากบริษัทยังอยู่ในช่วงเติบโต ผลประกอบการอาจมีการผันผวนในบางช่วงเวลา และอาจไม่มีการจ่ายเงินปันผลในอนาคตอันใกล้นี้