PR9
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

```html

สรุป Oppday โรงพยาบาลพระรามเก้า ปี 2567: เติบโตต่อเนื่อง มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางการแพทย์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

โรงพยาบาลพระรามเก้ามีการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องในปี 2567 รายได้รวมอยู่ที่ 4,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากปี 2566 กำไรสุทธิมีอัตราการเติบโต 27.8% โดยมี Net Profit Margin อยู่ที่ 14.8% รายได้เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังเติบโต 12%

รายได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 อยู่ที่ 1,277 ล้านบาท เติบโต 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 และเติบโต 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรสุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ 207 ล้านบาท คิดเป็น Net Profit Margin 16.2% เติบโต 9.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566

สัดส่วนรายได้ OPD ยังอยู่ที่ 59% และ IPD อยู่ที่ 41% ทั้งสองส่วนเติบโตขึ้น โดย OPD เติบโต 9.6% และ IPD เติบโต 11.3% เมื่อเทียบกับปี 2566 รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยคู่สัญญา (Contract) เติบโต 20.9% และมีสัดส่วนรายได้ 7% กลุ่มลูกค้าประกัน (Insurance) มีสัดส่วนรายได้ 27% เติบโต 15.4% ลูกค้าต่างชาติเติบโต 36.3%

รายได้ OPD เติบโต 9.6% มาจาก Revenue per Visit ที่เพิ่มขึ้น 5.5% และ Number of Visit ที่เพิ่มขึ้น 4% รายได้ IPD เติบโต 11.3% มาจาก Revenue per Patient Day ที่เพิ่มขึ้น 10.3% และ Patient Day Growth ที่เพิ่มขึ้น 0.6% อัตราการใช้ ICU และ CCU สูงขึ้นจาก 65% ในปี 2566 เป็น 67% ในปี 2567

สถานะทางการเงินของโรงพยาบาลดีขึ้น กำไรทำได้ดี Total Assets ขยายตัว 8.3% โดยมีการเปลี่ยนแปลงใน Current Assets และ Long-term Assets ที่นำไปฝากในรูปของตั๋วเงินและพันธบัตร

Key Financial Ratios ปรับตัวดีขึ้น ROE ขยับจาก 11.4% เป็น 13.6% และ ROA ขยับจาก 9.7% เป็น 11.6% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

บริษัทยังคงดำเนินการตามแผนกลยุทธ์องค์กร 3 ปี (2565-2567) โดยมี 4 ส่วนหลัก:

  1. Global Standard: เน้นศูนย์การแพทย์ (Medical Center) ทั้ง Advanced Medical Center และ Better Life Center รวมถึง Virtual Hospital
  2. World-Class Hospitality: พัฒนาบริการที่ดีที่สุด นอกเหนือจากการรักษาพยาบาลและมาตรฐานต่างๆ โดยเน้น Excellent Service
  3. Efficiency with Collaboration: ปรับกระบวนการภายใน ลดความซับซ้อน ลดต้นทุน
  4. Digital Transformation: นำ AI และเทคโนโลยีมาใช้ในการรักษาและการบริการ

มี 32 ศูนย์การแพทย์ โดยมี 3 สถาบันหลักคือ สถาบันโรคไตและเปลี่ยนไต สถาบันหัวใจ และสถาบันรักษาความปวด (Pain Center หรือ Fix and Fit) ในปีนี้จะเน้น 5 ศูนย์หลักคือ หัวใจ ไต สมองและระบบประสาท กระดูกและข้อ และการผ่าตัดแผลเล็ก

ขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างชาติ (International Customers) โดยเฉพาะ CLMV, จีน และตะวันออกกลาง โดยปรับปรุง International Center ให้เป็น One-Stop Service

มีการขยายศูนย์ไปยังบริเวณที่ผู้รับบริการอยู่ เช่น สุขุมวิท ซึ่งมีชาวตะวันออกกลางอยู่มาก และทำสื่อโฆษณาในแต่ละประเทศโดยใช้สื่อที่เหมาะสม (เช่น Facebook, Snapchat)

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

บริษัทตระหนักถึงผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่อาจทำให้คนไข้มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล เช่น มาตรการ Co-pay อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ารับการรักษาของผู้ป่วย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

มีการทำโปรโมชั่นและลดราคาสำหรับการทำหัตถการบางอย่าง เพื่อรักษาฐานลูกค้าคนไทย

เตรียมงบประมาณและโปรโมชั่นเพื่อรองรับผลกระทบจาก Co-pay และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการ Co-pay ให้น้อยที่สุด

นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและควบคุมต้นทุน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

เน้นการเติบโตของรายได้จากศักยภาพทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรคที่ยากและซับซ้อนที่ต้องการการทำงานเป็นทีม

ขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ

เพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Palliative Care)

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A ที่นาที 41:08]

  1. คำถาม: เหตุใดในไตรมาส 4 EBITDA Margin จึงลดลง year-on-year ทั้งๆ ที่คนไข้ต่างชาติเพิ่มขึ้น?

    คำตอบ: มี 2 ปัจจัย: 1. มีการทำโปรโมชั่นลดราคาหัตถการเพื่อรักษาฐานลูกค้าคนไทย 2. มีค่าใช้จ่าย One-time จากการ Renovate พื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่อง MRI ใหม่

  2. คำถาม: บริษัทประเมินผลกระทบจากมาตรการ Co-pay ที่จะบังคับใช้ 20 มีนาคม อย่างไร?

    คำตอบ: มองว่าเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว ปีนี้อาจยังไม่กระทบมาก แต่จะส่งผลในปีหน้า คาดว่าคนจะสนใจทำประกันมากขึ้นเพื่อลด Co-pay

  3. คำถาม: บริษัทมีมุมมองตัวเลข Adjusted RWD อย่างไร?

    คำตอบ: ไม่ได้รับประกันสังคมอยู่แล้ว

  4. คำถาม: ตัวอย่างเคสจริงที่เกิดจากการประยุกต์ Telemed เพื่อยกระดับคุณภาพบริการ?

    คำตอบ: มีหลายเคส เช่น เคสท้องเสียที่สามารถส่งยาไปให้ที่บ้านได้ เคสคนไข้ต่างชาติที่ต้องการ Second Opinion เรื่องมะเร็ง เคสโรคไตที่ปรึกษาทางไกลก่อนเดินทางมาไทย

  5. คำถาม: สอบถามถึงรายละเอียดหลักๆ ของนโยบายการเปลี่ยนแปลงการส่งต่อผู้ป่วยไปรักษานอกประเทศของรัฐบาลคูเวต?

    คำตอบ: ยังไม่ได้ดูแลคนไข้คูเวตมากนัก ผลกระทบยังน้อย แต่รัฐบาลคูเวตให้ความสนใจโรงพยาบาลในไทย หากมีการพิจารณาใหม่ อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือก

  6. คำถาม: คิดว่าการปันผลยังน้อยไปหรือเปล่า?

    คำตอบ: ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะมี Partner เข้ามาติดต่อเรื่องการลงทุนใหม่ๆ อาจมีการพิจารณาเพิ่มการปันผลในอนาคต

  7. คำถาม: ประกันแบบ Co-pay คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลอย่างไร?

    คำตอบ: พยายามมองหาจุดที่จะช่วยส่งเสริมให้โรงพยาบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยช่วยให้ลูกค้า Co-pay น้อยที่สุด

  8. คำถาม: บริษัทมีมุมมองตัวเลข Adjusted RWD อย่างไร?

    คำตอบ: ไม่ได้รับประกันสังคมอยู่แล้ว

  9. คำถาม: ในปัจจุบันคนไข้ตะวันออกกลางเป็นประเทศใดมากที่สุด?

    คำตอบ: กาตาร์, ซาอุ, UAE, โอมาน, คูเวต ส่วนใหญ่เป็น Self-pay

  10. คำถาม: มีการใช้ PR9...? (คำถามไม่ชัดเจน)

    คำตอบ: อาจจะต้องส่งคำถามใหม่

  11. คำถาม: สำหรับนักลงทุนแล้ว ถ้าจะต้องลงทุนใน PR9 คุณหมอคิดว่าเพราะอะไร?

    คำตอบ: มีการเติบโตต่อเนื่องมายาวนาน มีทีมแพทย์และทีมบริหารมืออาชีพ มีธรรมาภิบาลที่ดี และพยายามทำตามมาตรฐานสากล

  12. คำถาม: ทางบริษัทมีแผนที่จะทำ Inorganic Growth ในระยะใกล้ๆ นี้หรือไม่?

    คำตอบ: มี Partner หลายรายสนใจมาพูดคุยกับโรงพยาบาล อยู่ในแผนที่พิจารณา ต้องศึกษาแนวทางการตลาดและผลตอบแทนอย่างรอบคอบ

  13. คำถาม: พญาไทวาง Position ของตัวเองไว้ตรงไหน เป็นแบบ High-end หรือเปล่า?

    คำตอบ: เป็น Premium Mass ให้บริการที่ดี มีคุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้

  14. คำถาม: บริษัทใช้กลยุทธ์อะไรในการดึงคนไข้ต่างชาติ?

    คำตอบ: ทำทั้ง Online และ Offline เช่น Roadshow, สร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ, จัดสัมมนาวิชาการ, ใช้ Celeb/Influencer ในการประชาสัมพันธ์

  15. คำถาม: พญาไทจะมีการเติบโตในระยะยาวจากอะไร?

    คำตอบ: ศักยภาพทางการแพทย์ การควบคุม Standard ในการรักษาพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาล เครื่องมือ บุคลากรทางการแพทย์

  16. คำถาม: ทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มศูนย์หรือโรงพยาบาลใหม่เพื่อรองรับกับเฉพาะทางหรือไม่?

    คำตอบ: เพิ่มศูนย์ผ่าตัดเสริมความงามและแปลงเพศ มีแผนทำแผนกจิตเวชที่มีผู้ป่วยใน และมี Palliative Care อยู่แล้ว

  17. คำถาม: เห็นตึกหน้าหมู่บ้านมีคนมาประชุมเยอะช่วงวันหยุดเหมือนขายตรง?

    คำตอบ: อาจมีผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ชื่อคล้ายกัน โรงพยาบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีการชักชวนลงทุน

  18. คำถาม: PR9 จะซื้อหุ้นคืนไหม?

    คำตอบ: ยังไม่มีนโยบายที่จะซื้อหุ้นคืน

  19. คำถาม: สถาบันไตเป็นอย่างไรบ้าง?

    คำตอบ: มีการเติบโตต่อเนื่อง มีผู้ป่วยฟอกไตและผ่าตัดเปลี่ยนไตเพิ่มขึ้น มีแพทย์ American Board เข้ามาเพิ่ม และกำลังปรับปรุงพื้นที่ห้องฟอกไต

  20. คำถาม: ศูนย์หัวใจของโรงพยาบาลพระรามเก้าเชี่ยวชาญด้านไหนบ้าง?

    คำตอบ: มีชื่อเสียงอยู่แล้ว มีเคสที่นักวิ่งหมดสติและฟื้นตัวได้ มีการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ และปีนี้จะเน้นการเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยใช้สายสวน

  21. คำถาม: ธรรมาภิบาลของผู้บริหารในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา?

    คำตอบ: มีกระบวนการตรวจสอบการปฏิบัติงานในทุกขั้นตอน ได้รับรางวัลในเรื่อง Corporate Governance จากตลาดหลักทรัพย์และหลายๆ ที่ มีความโปร่งใส

  22. คำถาม: ทางโรงพยาบาลมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างไรบ้าง?

    คำตอบ: เน้นเรื่องสมองและ Robot เช่น MRI ตัวใหม่ การสวนหลอดเลือดสมอง และการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์

สรุป

โรงพยาบาลพระรามเก้ายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ การบริการ และการขยายฐานลูกค้าต่างชาติ บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงและเตรียมแผนรับมืออย่างรอบคอบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้รับบริการ

```