PR9
บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

PR9 เติบโตต่อเนื่อง! เจาะลึกผลประกอบการ Q3/2568 พร้อมอัปเดตกลยุทธ์ปีหน้า

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

โรงพยาบาลพระรามเก้า นำเสนอผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 พบว่ามีรายได้รวม 1,384 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ 6.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีเดียวกัน

Gross Profit อยู่ที่ 36.5% ของรายได้รวม เติบโต 11.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

Net Profit ปิดที่ 223 ล้านบาท คิดเป็น 16.1% Net Profit Margin เติบโต 7.4% Year on Year

รายได้ OPD มีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อยู่ที่ 54% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้ IPD อยู่ที่ 46%

  • รายได้ OPD เติบโต 6% Year on Year
  • รายได้ IPD เติบโต 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว

กลุ่มลูกค้า Self-Pay มีสัดส่วน 58% ลดลงจาก 66% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ในขณะที่กลุ่มลูกค้าประกันมีสัดส่วน 24% ลดลงเล็กน้อยจาก 27% ในปีที่แล้ว แต่ในภาพรวม 9 เดือน กลุ่มลูกค้าประกันยังมีการเติบโต 3.9%

กลุ่มลูกค้าคู่สัญญาเติบโตอย่างมาก จาก 7% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เป็น 17% ในไตรมาส 3 ปีนี้ คิดเป็นการเติบโต 184% Year on Year และในภาพรวม 9 เดือน เติบโต 204%

รายได้จากลูกค้าคนไทยมีสัดส่วน 72% ลดลงจาก 82% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว แต่ในภาพรวม 9 เดือน ยังมีการเติบโตเล็กน้อย 0.5% รายได้จากลูกค้า Inter มีสัดส่วน 28% เติบโต 77% และในภาพรวม 9 เดือน เติบโต 90%

กลุ่มลูกค้า Inter ที่เติบโตมากที่สุดคือชาวตะวันออกกลาง เติบโต 820% ในขณะที่กลุ่ม CLMV เติบโต 9% และกลุ่มลูกค้าชาวจีนลดลง 16%

รายได้ OPD เติบโต 5.7% โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของ Number Visit 0.6% และ Revenue per Visit 5%

รายได้ IPD เติบโต 18.8% มาจาก Patient Day ที่เติบโตขึ้น 3.3%

Occupancy Rate ในภาพรวมของไตรมาส 3 อยู่ที่ 68% แบ่งเป็น ICU/CCU 72% และ Ward 68%

Revenue per Patient Day เติบโตขึ้น 15%

งบแสดงฐานะทางการเงิน พบว่ามีมูลค่าสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 8.9% รวมอยู่ที่ 6,970 ล้านบาท โดยสินทรัพย์หมุนเวียนมีการเติบโต 28.2%

ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตประมาณ 7%

Key Financial Ratio หลักๆ มีการปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เช่น ROE ขยับจาก 13.6% เป็น 14.6% และ ROA ขยับจาก 11.6% เป็น 12.3%

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

PR9 มองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก:

  • การขยายขอบเขตการรักษาโรคยากซับซ้อน (Scope of Service)
  • การเติบโตของตลาดลูกค้าต่างชาติ (International Patients) โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง
  • การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลสุขภาพ
  • การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

กลยุทธ์ที่บริษัทใช้ในการคว้าโอกาสเหล่านี้:

  • ลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น เครื่อง MRI 3 Tesla
  • ขยายพื้นที่และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น แผนกกายภาพบำบัด
  • พัฒนาบริการและโปรแกรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
  • ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้า

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

บริษัทกำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายในด้านต่างๆ ดังนี้:

  • การชะลอตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ
  • การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโรงพยาบาลเอกชน
  • ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่างๆ
  • การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและนโยบายของภาครัฐ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้โดย:

  • ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากร
  • ปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานการบริการ
  • สร้างความแตกต่างและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
  • กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

แนวโน้มของธุรกิจในอนาคตยังคงสดใส โดยบริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและครบวงจร โดยมุ่งเน้นการรักษาโรคยากซับซ้อนและตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม

บริษัทมีแผนการเติบโตในระยะยาวโดย:

  • ขยายเครือข่ายและบริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ
  • ลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
  • สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 35.07]

แนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2568

Q: แนวโน้มไตรมาส 4 ปีนี้ เทียบ Q on Q, Year on Year จะเติบโตได้ไหม เพราะอะไร?

A: คาดว่ายังมีความต่อเนื่องจากไตรมาส 3 อาจมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่และ RSV แต่ไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา โมเมนตัมของลูกค้าต่างชาติยังดีอยู่

ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อ

Q: ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อช่วงที่เหลือของปีมองว่ายังไง?

A: เศรษฐกิจชะลอตัว คนไทยระมัดระวังการใช้จ่าย โรคหนักยังมา แต่โรคเบา ความสวยงาม ชะลอไปบ้าง มีโปรโมชั่นและส่วนลดช่วย

เป้าหมายรายได้ปี 2568

Q: เป้าหมายทั้งปี 2568 รายได้จะเติบโตกี่ % อยู่ที่ระดับประมาณเท่าไหร่?

A: ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้เป็น Double-Digit Growth จากที่ปิดมาเดือน 10 ก็ยังถือว่าทำได้ดี Double-Digit นี่เกินแน่นอน

ผู้ป่วยต่างประเทศและอัตราการครองเตียง

Q: ผู้ป่วยต่างประเทศช่วงนี้แน่นไหม? แล้วก็อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยอยู่ที่เท่าไหร่?

A: อัตราการครองเตียงยังอยู่ที่ 68% ตามที่พรีเซนต์ในไตรมาส 3 ไม่ได้ดรอปไปเลย คนต่างชาติก็ยังมาต่อเนื่อง

ลูกค้ากัมพูชา

Q: ลูกค้ากลุ่ม Check-Up ที่ปกติจะมาเยอะตอนไตรมาส 4 ปีนี้คิดว่าจะมามากเยอะกว่าปีที่แล้วไหม?

A: ลูกค้ากลุ่มกัมพูชาเสียดายไปนิดนึง ถ้าต่อเนื่องได้อยู่จะยิ่งดีกว่านี้ มีการชะลอไปก็ไม่เป็นไร มีกลุ่มตะวันออกกลาง, พม่า, ลาว ชดเชยเพิ่ม ลูกค้ากลุ่มกัมพูชามีผลกระทบยังไงบ้าง? มีสัดส่วนไม่น่าถึง 1% ของรายได้รวม

การตั้งสำรองราคาาทองคำ

Q: จะต้องตั้งสำรองทองเพิ่มอีกไหม? เพราะว่าทองขึ้น?

A: ตั้งต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญ ตัวที่ตั้งไปค่อนข้างจะตั้งไปค่อนข้างจะมียอดที่สูงประมาณนึงแล้ว จะต้องตั้งอีกทีไหมต้องบอกว่าราคาทองอาจจะต้องมีการปรับตัวขึ้นอีกซัก 20-30% ถึงจะต้องมีการ revise ใหม่ อย่างไรก็ดีเนี่ยเดี๋ยวในส่วนของปลายปีหน้าก็จะครบ 3 ปีในการที่ทางบริษัทจะต้องทำเล่มคำนวณตามหลักเกณฑ์ของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยซึ่งอันนั้นเนี่ยก็จะทยอยตั้งเข้าไปใน P&L เนี่ยทุกๆเดือนตามปกติเพราะฉะนั้นเนี่ยคิดว่าในปีหน้าถ้าราคา ทองไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบเป็น 20% 30% คิดว่าไม่น่าจะมีต้องไม่น่าจะต้องมีการตั้งเพิ่มแล้ว

Tax Rate

Q: Tax Rate ของ Q4 และปีหน้าจะเป็นยังไงบ้าง?

A: Q4 น่าจะกลับมาอยู่ที่เรทปกติ คือ 20% เนื่องจากมีการบริจาคเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโครงการที่ทำร่วมกับ BOI ครบแล้ว

Marketing Expense

Q: มีการลงเรื่องของ Marketing Expense ในปริมาณที่สูง ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เติบโต แต่ว่าอาจจะเติบโตช้ากว่า ว่า มีโอกาสที่จะกลับมาได้เมื่อไหร่?

A: ลงในช่วง Q2 Q3 และอาจมีต่อเนื่องถึง Q4 ในปีนี้ ผลที่ Return กลับมาก็จะมีความต่อเนื่องอยู่ ทั้งกลุ่มคนไข้ไทยและกลุ่มคนไข้ต่างชาติ Marketing Expense อันนึงที่ใช้มันจะเป็นเรื่องของส่วนลด เพราะว่าหลายๆเคสเนี่ยก็จะมีเรื่องของเรื่องประกันนะฮะที่อาจจะมีเรื่องของ Co-Pay ด้วยเรื่องอะไรด้วย อันนี้ก็พยายามที่จะช่วยนะฮะ เรื่อง Absorbed ค่าใช้จ่ายของลูกค้า ก็อาจจะทำให้กลุ่มยังน้อยกลุ่มก็จะยังไม่ไปไหนนะยังอยู่กับโรงพยาบาล ก็หวังที่จะมีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเพิ่มด้วย

Scale Down Selling Expense

Q: มีแผนจะ Scale Down Selling Expense ลงนี้ไหมครับ

A: พยายาม Control ให้ไม่เพิ่มไปกว่านี้ คิดว่าน่าจะอยู่ราวๆนี้เป็นต้น

ค่าใช้จ่ายของลูกค้า

Q: ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายจะมาจากกลุ่มทั้งลูกค้าไทยและลูกค้าต่างชาติด้วยรึป่าว

A: ทั้ง 2 ส่วน เพราะวิธีทำการตลาดจะแตกต่างกัน กลุ่มลูกค้าต่างชาติอาจจะยังไม่รู้จักเรามากนัก สิ่งที่ต้อง Broadcast หรือสิ่งที่ต้องสื่อให้รู้จักต้องหลายๆช่องทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Social Media นะครับเรื่องเว็บไซต์นะครับเรื่องของ Event ต่างๆที่จะต้องไปจอยนะครับกับทางสถานทูตรวมทั้งบาง Event เนี่ยเราก็ต้องออกไปต่างชาติไปที่ประเทศของเค้าด้วย

โรงพยาบาลรังสิตเปิดใหม่

Q: โรงพยาบาลรังสิตที่กำลังจะมาเปิดบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่เนี่ย เป็นคู่แข่งเซกเมนต์เดียวกันกับทางโรงพยาบาลมั้ย

A: อาจจะเป็นกลุ่มที่เป็นโรงพยาบาลสอน ทั้งกลุ่มที่เป็นแพทย์, แพทย์ฝึกหัด, และ fellow นะคะคือแพทย์เฉพาะทางต่อยอด ซึ่งตรงนั้นเองเนี่ยอาจจะเป็นกลุ่มลูกค้าอีกแบบนึงอาจจะมีคอร์สกันบ้าง แต่ว่าจริงๆในระแวกนี้ก็มีโรงพยาบาลอยู่เยอะมากๆทั้งโรงพยาบาลทั้งกลุ่มเอกชนแล้วก็โรงพยาบาลที่เป็นมหาวิทยาลัยนะฮะ ซึ่งใกล้ๆก็จะมีทั้งพระมงกุฎทั้งราชวิถีนะครับ ซึ่งกลุ่มเนี่ยคิดว่าอาจจะเป็นไม่ ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันซักโดยตรงซะทีเดียว นะครับแต่ยังไงก็ตามเนี่ย บางทีอาจจะเป็นความร่วมมือกันก็ได้นะฮะเรื่องของการดูแลคนไข้ร่วมกัน

ลูกค้าอาหรับ

Q: เริ่มรับลูกค้าอาหรับที่ไม่ได้เป็น Contract บ้างไหม

A: จริงๆรับอยู่แล้ว มีลูกค้า Contract กลุ่มนี้ที่เข้ามาตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้ว หลายๆเคสก็เป็นเคสที่พอรักษาแล้วดีก็ไปบอกต่อด้วย

ลูกค้ากัมพูชา (อีกครั้ง)

Q: ลูกค้ากลุ่มกัมพูชา ปกติมีเป็นกี่ % ของลูกค้าต่างชาติ ตอนนี้มีผลกระทบยังไงบ้าง?

A: สัดส่วนไม่น่าถึง 1% ของรายได้รวม และผลกระทบคือรายได้ส่วนนี้อาจจะขาดไป แต่หลายเคสยังทำ Telemedicine กับแพทย์ และซื้อยาที่ประเทศเขา ก็พยายามแนะนำว่าควรต้องได้รับการรักษายังไง แต่ก็เริ่มกลับมารับการรักษาตามปกติแล้ว แต่ยังไม่เยอะมาก

แผนขยาย Capacity ปีหน้า

Q: มีแผนจะขยาย Capacity ปี ปีหน้ายังไงบ้างคะ?

A: เน้นไปที่การเป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคยากและซับซ้อนได้ โรคง่ายๆมีคนช่วยรักษาได้เยอะแล้ว กลุ่มลูกค้าประกันพอเริ่ม Co-Pay ก็ไม่ Admit แล้วพยายามรักษาตัวเองมากขึ้น โรคสมอง,ไต,หัวใจ,กระดูกผ่าตัดใหญ่ยังต้องการความเชี่ยวชาญ,ชื่อเสียง,ประสบการณ์ แผนลงทุนปีหน้าเน้นรักษาโรคยากซับซ้อน