PM
บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) PM: ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567

ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) PM รายงานกำไรสุทธิ 210.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 157.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 259.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.4 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้าทาโร ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 103 ล้านบาท และธุรกิจการขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 160 ล้านบาท จากการส่งออกสินค้าทาโรไปจีน และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 32.5 ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าต้นทุนการจัดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้น 7.81 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มสินค้าที่รับจัดจำหน่ายและค่าขนส่ง แต่ค่าโฆษณาและส่งเสริมการขายกลับลดลง 15.25 ล้านบาท จากสินค้าทาโร ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขึ้น 22.6 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มค่าบริหารจัดการ 1.7 ล้านบาท และค่าบริจาคเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาท

บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าและขยายธุรกิจการขายต่างประเทศ โดยเน้นการขยายตลาดในประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆ บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 ไว้ที่ 5,500 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ที่ระดับ 32-34% จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีความมั่นใจในแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด PM แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดี โดยราคาหุ้นเฉลี่ยในอดีตอยู่ที่ระดับ 9.0 บาท P/E อยู่ที่ 9.82 และ P/BV อยู่ที่ 2.76 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ยังไม่สูงนัก D/E อยู่ที่ 0.81 หมายถึง ภาระหนี้สินของบริษัทไม่สูง วงจรเงินสดอยู่ที่ 47.5 สะท้อนถึงการหมุนเวียนเงินสดของบริษัท โดยมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกำไรและการบริหารจัดการเงินสด อย่างไรก็ตาม บริษัทมีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเป็นลบ ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ

**โอกาส:**

* ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
* แนวโน้มธุรกิจดี
* ภาระหนี้สินต่ำ
* การขยายตลาดต่างประเทศ
* วงจรเงินสดดี

**ความเสี่ยง:**

* การแข่งขันในตลาดสูง
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* ต้นทุนวัตถุดิบอาจผันผวน
* กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิของบริษัทอยู่ในระดับที่ผันผวน

**โอกาสการลงทุน:**

PM เป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง แนวโน้มธุรกิจดี และมีศักยภาพในการขยายตลาดต่างประเทศ ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ P/E และ P/BV อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการของบริษัทอย่างใกล้ชิด และประเมินความเสี่ยงในการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ต้นทุนวัตถุดิบ และการแข่งขันในตลาด PM เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบถือยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจ แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล อาจไม่เหมาะ เนื่องจาก YIELD อยู่ที่ 6.02% ซึ่งไม่น่าสนใจ


รายได้รวม
1,321.73 ล้านบาท
189.18ล้านบาท
(16.70%)
ไตรมาสก่อนหน้า
335.58ล้านบาท
(34.03%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
404.93 ล้านบาท
21.65ล้านบาท
(5.65%)
ไตรมาสก่อนหน้า
83.67ล้านบาท
(26.05%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
30.64 ล้านบาท
3.20ล้านบาท
(9.46%)
ไตรมาสก่อนหน้า
1.94ล้านบาท
(5.95%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
234.66 ล้านบาท
41.57ล้านบาท
(15.05%)
ไตรมาสก่อนหน้า
15.99ล้านบาท
(7.31%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
17.75 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
210.53 ล้านบาท
105.94ล้านบาท
(101.30%)
ไตรมาสก่อนหน้า
128.54ล้านบาท
(156.77%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
15.93 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
65.30 ล้านบาท
4.79ล้านบาท
(6.83%)
ไตรมาสก่อนหน้า
75.30ล้านบาท
(53.56%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล