สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) ประจำปี 2567: วิเคราะห์การเติบโตและความท้าทายในอุตสาหกรรมอาหาร

บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ประจำปี 2567 โดยเน้นการวิเคราะห์รายได้ กำไร โครงสร้างทางการเงิน และปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

**1. สรุปรายได้รวม:**

ในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,630.8 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,623.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตของรายได้จากการขายนี้เป็นผลมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100% และการขยายฐานลูกค้าใหม่กว่า 30 ราย รวมถึงการขยายช่องทางการขายเพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่น ๆ อีก 7.7 ล้านบาท

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

(ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในช่วงปี 2567 ในเอกสารที่ให้มา)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **ต้นทุนขาย:** สัดส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายในปี 2567 อยู่ที่ 80.3% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.7% การเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายมีสาเหตุหลักมาจากการเริ่มต้นการดำเนินงานของสายการผลิตใหม่ และการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนการผลิตคงที่ในระดับสูง (เช่น ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร, ค่าเชื้อเพลิง, ค่าสาธารณูปโภค, และค่าจ้างแรงงาน) ในขณะที่รายได้จากการขายยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (ไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) สำหรับปี 2567 อยู่ที่ 218.1 ล้านบาท คิดเป็น 15.3% ของรายได้จากการขาย เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย (แผนการตลาดและการออกบูธแสดงสินค้า) รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรบุคคล
* **ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน:** สถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 12.6 ล้านบาท
* **กำไรสุทธิ:** กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในปี 2567 อยู่ที่ 43.0 ล้านบาท ลดลง 77.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 3.0% ของรายได้จากการขาย

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์:** ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1,691.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.69% สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญจากการลงทุนในเครื่องจักร อุปกรณ์ และการปรับปรุงพื้นที่อาคาร เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต
* **หนี้สิน:** บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 374.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% หนี้สินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากการเบิกใช้เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน

**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**

* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน:** มีกระแสเงินสดสุทธิได้มา 136.2 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน:** มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไป 455.8 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายซื้อสินทรัพย์และเครื่องจักร
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน:** มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไป 17.8 ล้านบาท โดยมีการเบิกใช้วงเงินจากสถาบันการเงิน และจ่ายเงินปันผล

**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**

* **ความเสี่ยง:** เอกสารไม่ได้ระบุปัจจัยความเสี่ยงโดยตรง แต่จากข้อมูลผลประกอบการ สามารถอนุมานได้ว่า ความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิต และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา
* **โอกาส:** บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการเติบโตในผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ (เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว, เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100%, และเครื่องดื่มน้ำนมมะพร้าว) และมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการตลาดไปยังกลุ่มประเทศใหม่อย่างต่อเนื่อง

**7. สรุป:**

ในปี 2567 บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้จากการขายเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสในการเติบโตในอนาคตจากการขยายตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

**ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขสำคัญ:**

* **รายได้และกำไร:** รายได้ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยไม่สามารถชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตรากำไรสุทธิ
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** D/E Ratio ที่ 0.28 เท่า แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีระดับหนี้สินที่ไม่สูงนัก

**การจัดการความเสี่ยงและโอกาส:**

* บริษัทฯ มีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และเพิ่มสัดส่วนการขายในสกุลเงินท้องถิ่น
* บริษัทฯ มุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในอนาคต

โดยรวมแล้ว ผลประกอบการของ PLUS ในปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาความสามารถในการทำกำไรในช่วงที่มีการลงทุนขยายกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม การมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนและการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในอนาคต