NVD
บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

สรุป Oppday NVD: เจาะลึกผลประกอบการ Q3/2568 และทิศทางอนาคต

สรุป Oppday ของ บมจ. นิววานา ดีเวลลอปเม้นท์ (NVD) ประจำไตรมาส 3 ปี 2568 ครอบคลุมภาพรวมธุรกิจ ผลการดำเนินงาน โอกาสและความท้าทาย รวมถึงแนวโน้มในอนาคต

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
    • ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัวและชะลอตัวจากปัจจัยต่างๆ เช่น การระบายสต็อกของผู้ประกอบการ สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การเปิดโครงการใหม่ลดลง
    • มีการแข่งขันสูงในการออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
    • NVD ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ แต่เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Nirvana @work กรุงเทพกรีฑา ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
    • มีการทยอยขายบ้านสต็อกจนเกือบหมด และจะเริ่มเปิดขายในเฟสที่เหลือของโครงการต่อไปในปีหน้า
    • ลูกค้าใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น จากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต และการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาสินเชื่อ
    • กลุ่มลูกค้าที่ซื้อในปัจจุบันเป็นกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการบ้านจริงและมีศักยภาพในการซื้อ
    • มาตรการผ่อนคลาย LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขาย
    • การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยบวกต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้า
    • ยอด Pre-sale ในไตรมาส 3 ปรับตัวสูงขึ้น ปิดยอดขายได้ 422 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 1 และ 2
    • ยอด Pre-sale สะสม 9 เดือน อยู่ที่ 894 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็น Pre-sale ของแนวราบ
    • รายได้รวมในไตรมาส 3 อยู่ที่ 404 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการโอน 375 ล้านบาท (รวมโครงการ @work และ Absolute กรุงเทพกรีฑา) และรายได้อื่นๆ 29 ล้านบาท (recurring income จาก Community Mall และอาคารจอดรถให้เช่า)
    • อัตราผู้เช่าเต็มจำนวนทั้งสองแห่ง (Community Mall และอาคารจอดรถ)
    • รายได้ปรับตัวสูงขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
    • กำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 122 ล้านบาท คิดเป็น 32% ขยับตัวสูงขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น
    • ค่าใช้จ่ายขายและบริหารในไตรมาส 3 อยู่ที่ 70 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายที่สัมพันธ์กับรายได้และการบริหารค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับรายได้
    • ค่าใช้จ่ายลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 จากค่าธรรมเนียมโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น
    • กำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 45 ล้านบาท คิดเป็น 11% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและไตรมาสที่ผ่านมา
    • สินทรัพย์รวม ณ เดือน 9 อยู่ที่ 15,034 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมขาย (23%) ที่ดินและโครงการระหว่างก่อสร้าง (66%) และ Investment Property (11%)
    • หนี้สินรวมอยู่ที่ 9,530 ล้านบาท แบ่งเป็นสัญญาใช้เงิน (19%) หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (70%) และหนี้สินอื่นๆ (11%)
    • หนี้สินในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงจากการขายและรับรู้รายได้
    • Backlog สะสมที่จะรอรับรู้รายได้ในอนาคตอยู่ที่ 1,116 ล้านบาท
    • มูลค่าโครงการที่ยังขายได้อีก 15 โครงการอยู่ที่ 18,861 ล้านบาท
  2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
    • กลุ่มลูกค้า Real Demand ที่ต้องการบ้านจริงและมีศักยภาพในการซื้อ
    • มาตรการผ่อนคลาย LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย
    • การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
    • ธุรกิจ Recurring Income จาก Community Mall และอาคารจอดรถให้เช่า
    • การพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
  3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
    • ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัวและชะลอตัว
    • การแข่งขันสูงในการออกโปรโมชั่น
    • ลูกค้าใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อบ้านนานขึ้น
    • ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น
    • ความกังวลเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต
    • การเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาสินเชื่อ
  4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
    • บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
    • พัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
    • จัดแคมเปญส่งเสริมการขายและกระตุ้นยอดขาย
    • ให้ความสำคัญกับลูกค้า Real Demand
    • บริหารจัดการหนี้สินและสภาพคล่อง
  5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
    • NVD จะคิดแผนการดำเนินงานอย่างรัดกุมและสอดคล้องกับการบริหารต้นทุน
    • โครงการ @work กรุงเทพกรีฑา เริ่มทยอยรับรู้รายได้และเปิดตัวโครงการแบบ Soft Opening
    • พัฒนาบ้าน Type แบบใหม่สำหรับโครงการ (New Series Autograph แบบ Pool Villa)
    • จัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย (เช่น Deal ดีมีครั้งเดียว ที่ Absolute กรุงเทพกรีฑา และโปรโมชั่นพิเศษที่ Define กรุงเทพกรีฑา)
    • สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าคาดว่าจะไม่ต่างจากปีนี้มากนัก อาจจะทรงๆ หรือปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
  • ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 23:13]
    1. คำถาม: จากที่ธนาคารมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา ทำให้อัตราต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับตัวไปเท่าไหร่? คำตอบ: เนื่องจากบริษัทมีอัตราดอกเบี้ยทั้งในส่วนของ Fix Rate และ Float Rate จากการที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของทางสถาบันการเงิน ปัจจุบันนี้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5.55%
    2. คำถาม: ปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร? คำตอบ: ณ ปัจจุบันยังไม่มีแผนที่จะเปิดโครงการเพิ่มเติม ซึ่งเราก็จะมาพัฒนาโครงการในส่วนที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็จะมีการเปิดเฟสของโครงการในปัจจุบันเพิ่มขึ้น ขยายเฟสงานก่อสร้างและการขายออกไปเพิ่มขึ้น
    3. คำถาม: บริษัทคาดว่าสถานการณ์ของอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะเป็นอย่างไร? คำตอบ: คาดว่าคงไม่ต่างจากปีนี้มาก อาจจะทรงๆ อาจจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
    4. คำถาม: บริษัทมีแผนที่จะเปิด Community Mall เพิ่มขึ้นหรือเปล่า ในแง่ธุรกิจ Recurring ของบริษัท? คำตอบ: ณ ปัจจุบันทางบริษัทไม่ได้มีแผนที่จะเปิด Community Mall เพิ่ม แต่ว่าเรามีแผนในการขยับขยาย Community Mall เพิ่ม ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีผู้ติดต่อสอบถามเข้ามาถามพื้นที่เช่าของเราเช่นเดียวกันครับ เนื่องจากพื้นที่เช่าในตัวอาคารเราเต็มเรียบร้อยแล้ว ก็เลยมีผู้เช่าที่สนใจติดต่อเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ว่าเราจะมีการเปิดเฟส 2 ขึ้นหรือไม่
    5. คำถาม: บริษัทมีแผนลงทุนด้านธุรกิจ Healthcare หรือ Warehouse หรือไม่? คำตอบ: ความจริงอันนี้ทางเราอยู่ในการศึกษา โดยโดยเฉพาะธุรกิจ Healthcare แล้วก็ Warehouse เนี่ยเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถสร้าง Stream Revenue ที่มั่นคงให้กับทางบริษัทได้ ซึ่งทางเราก็มีการศึกษาอยู่ทั้งคู่
    6. คำถาม: บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกหรือไม่? คำตอบ: ณ ปัจจุบันทางบริษัทของเราปิดหุ้นกู้ไปครบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราไม่มีหุ้นกู้เลย ส่วนคำถามที่ว่าจะมีแผนออกหุ้นกู้อีกครั้งหรือไม่ ณ ปัจจุบันทางบริษัทก็ยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้นกู้ แต่ยังไงก็ตามในอนาคตถ้าตลาดหุ้นกู้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งเราอาจจะพิจารณาออกหุ้นกู้อีกที

    โดยสรุป NVD เผชิญกับความท้าทายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตจากกลุ่มลูกค้า Real Demand, มาตรการภาครัฐ และธุรกิจ Recurring Income บริษัทมุ่งเน้นการบริหารต้นทุน พัฒนาโครงการใหม่ๆ และจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างผลกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต