สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท นิวพลัสนิตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ NPK ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยรายได้รวมอยู่ที่ 63.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.02% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากการขายสินค้ากลุ่มผ้าทอ ซึ่งเพิ่มขึ้น 23.38% จากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มผ้าผืนลดลง 59.83% แม้ว่ายอดขายสินค้ากลุ่มผ้าทอและกลุ่มผ้าผืนในประเทศจะลดลง แต่ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่มผ้าทอ ต้นทุนขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 54.77 ล้านบาท ลดลง 8.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเพิ่มของต้นทุนขายเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเพิ่มของยอดขาย เนื่องมาจากตั๋นทุนวัตถุดิบและตันทุนพลังงานลดลง เนื่องจากการควบคุมตั้นทุนการผลิต ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 9.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 153.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทฯ มีแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีศักยภาพการเติบโตสูง บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเพิ่มยอดขายต่างประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง บริษัทฯ คาดหวังรายได้จากยอดขายรวมในปี 2568 จะเติบโตอย่างน้อย 10% จากปี 2567

ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น กำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 2.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน P/E อยู่ที่ -100 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ต่ำ P/BV อยู่ที่ 0.3 สะท้อนถึงมูลค่าพื้นฐานของบริษัทฯ ที่ต่ำ D/E อยู่ที่ 0.16 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำ ส่งผลดีต่อการขยายขนาดของกิจการหรือลงทุนในโครงการต่าง ๆ โดยการกู้เงิน หากบริษัทฯ ต้องการขยายกิจการและลงทุนในโครงการใหม่ ๆ การมีภาระหนี้สินที่ต่ำ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่เจ้าหนี้จะอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น บริษัทฯ มีวงจรเงินสด 155.17 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสด โดยบริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 0 ล้านบาท และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -4.48942 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน NPK เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

โอกาสการลงทุนใน NPK ได้แก่
- บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตจากการขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพสูง
- บริษัทฯ มีแนวโน้มกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
- บริษัทฯ มีหนี้สินต่อทุนต่ำ ส่งผลดีต่อการขยายกิจการหรือลงทุนในโครงการต่าง ๆ

ความเสี่ยงในการลงทุนใน NPK ได้แก่
- ผลประกอบการของบริษัทฯ อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
- บริษัทฯ อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดต่างประเทศ
- บริษัทฯ อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์แฟชั่น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรก่อนภาษีเพิ่มขึ้น 213.16% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 222.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายต่างประเทศจากสินค้ากลุ่มผ้าทอเพิ่มขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และต้นทุนพลังงานลดลง เนื่องจากการควบคุมต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีขาดทุนก่อนภาษี 5.10 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 4.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากยอดขายลดลง 16.62% แม้ว่าต้นทุนขายจะลดลงมากกว่ายอดขาย เนื่องจากการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน แต่ยังมีต้นทุนคงที่ที่ไม่ได้ลดลงตามยอดขาย