NNCL
บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

NNCL อัพเดทแผนธุรกิจปี 2567 เดินหน้าขยายการลงทุนพลังงานและสาธารณูปโภค พร้อมรักษาการเติบโตอย่างยั่งยืน

สวัสดีครับ ผม สุทธิพร จันทวานิช CEO บริษัท นวนคร และผม พัชนา สายทอง CFO บริษัท นวนคร วันนี้เรามาอัปเดตการพัฒนาของบริษัทและผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาครับ

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 4,667 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.3% หนี้สินลดลง 1% อยู่ที่ 897 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.14% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทครับ

รายได้ที่ไม่รวมการขายที่ดินอยู่ที่ 889 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีที่ผ่านมา Gross profit อยู่ที่ 296 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แสดงถึงประสิทธิภาพในการจัดการของฝ่ายบริหาร

Share profit จาก Joint Venture ปรับตัวลดลงจาก 105 ล้านบาท เหลือ 76 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้การ COD ของโรงไฟฟ้าขนาด 30 เมกะวัตต์ที่โคราช และการรับรู้ค่าเสื่อม Net profit margin อยู่ที่ 39% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา Net profit อยู่ที่ 396 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเช่นกัน EBITDA ปีนี้อยู่ที่ 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีที่ผ่านมา

โครงสร้างหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.24 เท่า ลดลงจากปีที่ผ่านมา หนี้สินที่ก่อดอกเบี้ยอยู่ที่ 136 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา 30 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

โครงการต่อเนื่อง 5 โครงการ:

  1. โครงการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าไอ น้ำเฟสที่ 3 ที่นวนคร ปทุมธานี: เฟส 1 มีกำลังการผลิต 125 MW และไอ น้ำ 30 ตัน/ชม, เฟส 2 เพิ่มอีก 60 MW และไอ น้ำ 10 ตัน/ชม, เฟส 3 เพิ่มอีก 30 MW และไอ น้ำอีก 5 ตัน/ชม รวมกำลังการผลิต 200 กว่า MW คาดว่าจะแล้วเสร็จและ COD ในปีนี้ อยู่ในช่วงทดสอบเครื่องจักร
  2. โรงไฟฟ้าขนาด 30 MW ที่นวนคร โคราช: ร่วมทุนกับ ราชกรุ๊ป และ B.Grimm ดำเนินการ COD แล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว
  3. โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณติดกับนวนคร โคราช 81 ไร่ 1 งาน และ 40 ตรว.: พัฒนาเป็นที่พักอาศัยและพาณิชยกรรม โดยตั้งบริษัท ย่อย 4 บริษัท เพื่อประกอบการในส่วนโรงแรม พาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ หอพัก และบ้านจัดสรรเพื่อขาย พื้นที่สีม่วงอยู่ในขั้นตอนขอผ่อนผัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
  4. โครงการ Nava Smart Life: พัฒนาแอปพลิเคชั่น Smart City รองรับการขยายตัวของธุรกิจในพื้นที่ ให้บริการที่สะดวกสบายมากขึ้น และเข้าสู่ E-commerce ตลาด เฟสแรกเป็นการแจ้งข่าวสาร ตอนนี้มีทั้งที่นวนคร ปทุมธานีและโคราช เฟส 2 พัฒนาระบบจ่ายค่าสาธารณูปโภคออนไลน์ และออก E-tax invoice เฟส 3 พัฒนา Commercial ในการให้บริการผ่าน Commercial ต่างๆ คล้าย E-commerce ในพื้นที่นวนคร
  5. Training Center: ให้บริการ Upskill Reskill พนักงาน สนับสนุนการประกอบกิจการอุตสาหกรรม และให้เช่าห้องอบรมสัมมนา รองรับการเข้าสู่ยุคดิจิทัล

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

เศรษฐกิจที่อยู่ในช่วง Slow down อาจทำให้การขยายตัวบางจุดไม่เร็วอย่างที่ต้องการ

การขยายพื้นที่ใน EEC มีรายละเอียดเยอะ ต้องเป็นพื้นที่สีม่วง หรือสามารถขอเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่สีม่วงได้ ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการที่ค่อนข้างจะเยอะและใช้เวลาค่อนข้างจะมาก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

พยายามรักษาความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้มั่นคงและต่อเนื่อง

เน้นการขยายธุรกิจ Recurring income โดยเฉพาะเรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ

พยายามรักษา ระดับการขายที่ดินให้ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

การดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

เน้นเรื่องสาธารณูปโภค โดยมีแผนขยายการขายน้ำให้การประปา

Nava Smart Life จะเข้าสู่ Commercial phase ที่จะเชื่อมโยงพาณิชยกรรมกับผู้บริโภค

บริษัทจะมีการขยายการลงทุนใน EEC

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) เริ่มต้นที่นาทีที่ 26:22

คำถามและคำตอบจากช่วงถาม-ตอบ:

บริษัทมีเงินสดจำนวนมาก มีแผนจะใช้ทำอะไร หากไม่มี คืนเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น?

มีแผนที่จะพัฒนาอยู่แล้ว เงินที่มีอยู่ต้องมีการบริหารจัดการให้เหมาะสม หวังว่าจะมีโครงการต่างๆ ที่ผ่านการตรวจสอบและประเมินแล้วว่าเหมาะสม รอที่จะมาเล่าสู่กันฟัง

พยายามจะปันผลให้ได้อย่างน้อยเท่าๆ กันทุกปี ถ้าสังเกตในปีที่ผ่านมาจะปันผลสม่ำเสมอและโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วย คาดว่าในอนาคตบริษัทจะสามารถมีกำไรมีเงินสะสมมากขึ้นและปันผลให้ได้มากกว่าเดิมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าถามว่ามีแผนอะไรไหม ก็มีแผนธุรกิจอยู่ใน Pipeline อยู่พอสมควร รอให้ผ่านกระบวนการทุกอย่างแล้วจะมาเล่าสู่กันฟัง จะได้พัฒนากันต่อ

เรื่องโครงการพวกนี้ยังอยู่ในช่วงของฝ่ายพัฒนาธุรกิจดำเนินการอยู่

นวนครที่ปทุมธานียังมีที่ดินเหลือขายมากน้อยแค่ไหน?

ที่ปทุมธานี 6,500 ไร่ ใกล้หมดมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังมีที่ดินขายเพิ่มขึ้นบ้าง ที่ล่าสุดของปีที่ผ่านมาก็มีการขายให้ทาง Data Center ไปด้วย 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากกลุ่ม Data Center หลายกลุ่ม ก็เป็นข้อดีของการที่เราเริ่มมี Data Center มาตั้งอยู่ในนั้น สร้างความเชื่อมั่นในตลาดว่านวนครที่ปทุมธานีเหมาะสมในการรองรับธุรกิจ Data Center ตอนนี้มีธุรกิจ Data Center หลายรายอยู่ระหว่างการติดต่อกันอยู่ รอที่จะมาเล่าข่าวดีให้ฟังกัน

Data Center มาลงทุนแล้ว เขาจะไม่ได้มาลงทุนแค่เรื่องซื้อขายที่ดิน ซื้อที่ดินเราไปแค่นั้น เพราะว่า Data Center เป็นธุรกิจที่ใช้สาธารณูปโภคมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ รวมถึงระบบสื่อสารที่ต้องส่งข้อมูลดิจิทัลต่างๆ ผ่านระบบ Fiber Optic ต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบริการที่นวนครให้บริการทั้งนั้น ก็จะสามารถต่อยอดในเรื่องของการให้บริการสาธารณูปโภคต่างๆ มีรายได้จากตรงนั้นเข้ามาด้วย เราก็มีที่ดินเหลือขายอยู่ ตอนนี้ก็ประมาณเกือบๆ 200 ไร่ ของที่ปทุมธานี ก็ยังมีอยู่ และก็พยายามจะดูที่ดินส่วนเพิ่มเติมขยายเข้ามา อย่างที่ช่วงปีที่ผ่านมาก็มีการซื้อที่ดินเข้ามาเป็น Land Bank เพิ่มเติมอีกบางส่วน ประมาณ 70 ไร่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับพื้นที่ หรือบางที่ก็คือเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตกำแพงป้องกันน้ำท่วมอยู่แล้ว และก็ไปขอซื้อต่อมาได้

นิคมในภาคตะวันออกค่อนข้างจะบูม บริษัทมีแผนงานจะขยายหรือเปล่า?

การขยายเขตอุตสาหกรรมเป็นเขตที่ 3 ของนวนครมีการดูอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะภาคตะวันออกอย่างเดียว แต่ต้องยอมรับว่าตอน นี้พื้นที่ EEC ก็เป็นพื้นที่ที่มีการไปลงทุนกันมากที่สุด อันนั้นเป็นที่ข้อมูลทางการตลาดยืนยันอย่างนั้นอยู่แล้ว

มีการไปดูพื้นที่ในส่วนตะวันออกอยู่ แต่รายละเอียดเยอะ เพราะเวลาต้องไปขยายพื้นที่ ก็ต้องเป็นพื้นที่สีม่วงด้วย หรือถ้าเป็นไม่ใช่พื้นที่สีม่วง ก็มีบางพื้นที่ที่สามารถในบอร์ด EEC ก็สามารถขอเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่สีม่วงได้ แต่รายละเอียดในการดำเนินการค่อนข้างจะเยอะใช้เวลาค่อนข้างจะมาก พื้นที่ที่เหมาะสมที่ไปดูอยู่ก็มีค่อนข้างจำกัด แต่พยายามจะเป็นจุดสนใจอยู่ที่จะเข้าไปขยายกิจการในภาคตะวันออก

เรื่องที่ดินนี้ก็ไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ ตอนนี้ก็มีการดูพื้นที่อยู่หลายแปลง หวังว่าจะสำเร็จได้ และมีการขยายตัวไปพื้นที่ EEC ได้ ดูอยู่แล้วก็มีแผนงานที่จะขยาย

แผนงานที่จะเพิ่มรายได้ประจำในอนาคตมีงานอะไรบ้าง?

จะเน้นเรื่องสาธารณูปโภค อย่างที่ผ่านมาก็มีการขายน้ำให้การประปาแล้วด้วย ก็คิดว่าจะมีโอกาสที่จะสามารถขยายกิจการที่เป็นรายได้ประจำในอนาคตโดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภค กิจการที่ขยายออกไปขายให้กับนอกพื้นที่ อย่างเช่นขายน้ำประปาให้กับการประปา เนี่ย ก็กำลังดูที่จะขยายตรงนี้อยู่ ที่อาจจะมีลักษณะธุรกิจลักษณะคล้ายๆ กันอย่างนี้เพิ่มขึ้นมา ก็อยู่ในช่วงที่การศึกษาประเมินอยู่ ซึ่งก็จะสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ มั่นคงด้วย

นิคมที่โคราชมีลูกค้าสนใจมากหรือไม่ อย่างไร?

มีลูกค้าติดต่อต่อเนื่องทุกปี ที่โคราชก็น่าจะมีลูกค้าปิดกันได้ในปีนี้ คิดว่า เพราะว่าจริงๆ ทั้งปทุมธานีทั้งที่โคราช เราจะมีลูกค้าติดต่อเราอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ก็ไม่น่าห่วงอะไร แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้ต้องบอกว่ารายได้กับกำไรเราอ่ะมันมา มันไม่ได้มาจากการขายที่ดินเป็นหลัก เราได้รายได้จากจากการให้บริการทางสาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคเนี่ย ทุกปีเนี่ยก็อยู่ที่ประมาณรวมๆ ประมาณ 80% เพราะนั้นรายได้หลักเราก็ต้องถือว่าบริษัทก็ชิฟมา ในธุรกิจที่มีความมั่นคง ในส่วนของการให้บริการโดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เนี่ย ก็มีกำไรแล้วก็มีรายได้สัดส่วนก็อยู่ที่ประมาณรวมๆ 80%

ของที่นวนคร ปทุมธานีเหลือที่ขายอยู่ประมาณเท่าไหร่?

ใกล้ๆ ประมาณเกือบๆ 200 ไร่ และของที่นวนครที่โคราชก็ ตอนนี้ขายไปได้ประมาณ 70% พื้นที่เราประมาณ 2,000 ไร่ ก็เหลืออยู่ประมาณ ประมาณ 4-500 ไร่

ปีนี้จะมีบันทึกรายได้ขายที่ดินไหม?

พยายามให้มี โดยเฉลี่ยแล้วเรามีการขายที่ดินทุกปี มีบางที ที่ผมเข้าใจว่าใน 10 ปีที่ผ่านมาอาจจะมีแค่ปีเดียวมั้ง ที่อาจจะไม่มี ยอดขายที่ดินเข้ามา แต่ปีนั้นก็มีกำไรนะ ก็ถือว่าพิสูจน์ได้ว่าถึงแม้เราไม่ได้ขายที่ดินเราก็มีกำไรพอสมควรอยู่ ค่อนข้างมั่นใจว่าจะมียอดขายที่ดินเข้ามาด้วย ในปีนี้ เพราะมีลูกค้าติดต่อกันมาต่อเนื่องทุกปีอยู่แล้ว เวลาเราขายที่ดินปีนี้ มันต้องติดต่อกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ลูกค้าบางรายบางทีคุยกัน ถ้าติดต่อเราช่วงประมาณกลางปีที่แล้วเนี่ยมันก็จะมาจบประมาณช่วงปีนี้นะ ครับ ก็มีลูกค้าหลายรายคุยกันอยู่ ลูกค้าหลายบางรายก็เป็นลูกค้า Potential ที่อาจจะสามารถใช้สาธารณูปโภคเราเยอะด้วย

โรงไฟฟ้า NNT ขายไฟฟ้าโดยที่มีสัญญา ก็คือมีใบอนุญาตจากกระทรวงพลังงานเนาะ ก็เป็นสัญญา SPP ถ้าหมดสัญญากับการไฟฟ้าแล้วบริษัทสามารถขายตรงได้หรือไม่?

ต้องรอดูในอนาคต ว่าถ้าหมดสัญญาแล้วเนี่ย เราก็คงจะขอ ใบอนุญาตในการที่จะขายตรงให้กับลูกค้าภายในเขต อุตสาหกรรมในพื้นที่ต่อ คิดว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะเนื่องจากว่า การให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่เนี่ย ก็น่าจะเหมาะสมในการตอบโจทย์เศรษฐกิจของประเทศเราอยู่แล้ว ให้ให้ให้โรงงานต่างๆ มีศักยภาพและมีคุณภาพไฟฟ้าที่ดีใช้เนี่ยนะฮะ คือเสริมกับการไฟฟ้าภูมิภาคอีกทีด้วย คิดว่ามีความเป็นไปได้ ในการที่จะ สามารถ ขายต่อให้กับลูกค้า IU ในพื้นที่ แต่เรื่องนี้ก็คงต้อง รอ รอความชัดเจนต่อไปหลังจากที่ ที่หมดสัญญาก็คงจะต้องเดินเรื่องนี้กันต่อ IU เนี่ยคือการขายตรงให้โรงงาน ตอนนี้ต้องบอกว่า หลังจากที่เราทำเฟส 3 แล้วเฟส 1 เราประมาณ 125 นะครับ เฟส 2 ประมาณ 60 เฟส 3 ประมาณ 30 ก็ประมาณ 210 215 นะ ครับ ใน 210 เนี่ย เรา มีขายให้กับ คืน ขายคืนให้กับการ ไฟฟ้าเลยเนี่ย 90 เมกะวัตต์ เพราะนั้นอีกประมาณ 120 เมกะวัตต์เนี่ย ก็จะเป็นการขาย IU ในพื้นที่ครับ ก็เป็นการขายตรงให้กับ IU ก็คือ industrial user นะ ก็เป็นการขายตรงให้กับโรงงานในพื้นที่ ก็ถือว่าตอนนี้ก็มีสัดส่วน ประมาณเกินครึ่งนะครับที่จะขายให้กับ IU ในพื้นที่ ความคาดหวังก็คือว่า ก้อนใหญ่ที่จะเข้ามาก็ น่าจะเป็นการขายไฟให้กับ Data Center ที่ มา ที่ มา เริ่มกิจการแล้วในนวนครด้วย แล้วก็มี Potential ที่จะมี Data Center ใหม่ๆ เข้ามาในอนาคตด้วย

ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?

การขาย คืนให้กับการไฟฟ้าเนี่ย มันจะมีความชัดเจนของ ของสัดส่วนกำไร เหมือนการขายส่งอ่ะนะครับ เจรจากันแล้วก็ ถึงแม้ ต้น ทุนค่า พลังงานค่า ค่าเชื้อเพลิงนะ นะครับ จะสูงเนี่ย ก็จะมีการแบ่ง Margin เนี่ย ให้สามารถมี Margin ที่ ที่เหมาะสม จะไม่สูงมากนะครับ แต่จะอยู่ในเกณฑ์ที่ ที่สามารถทำธุรกิจได้ แต่ในการขายตรงให้กับลูกค้า IU เนี่ยเหมือน เหมือนการขายปลีกนะ เพราะฉะนั้นก็จะมีสัดส่วน Margin โดยปกติแล้วจะสูงกว่า การขายให้กับ ขายคืนไฟฟ้าให้กับ การไฟฟ้าขายคืนให้ อีก น่ะนะฮะ แต่บางช่วงบางตอนที่ต้น ทุนค่า พลังงานสูง เนี่ย นะครับ ก็ จะทำให้กำไรตรงนั้นอาจจะลดลงมาบ้าง อันนี้ก็ขึ้นอยู่ มันจะขึ้นอยู่กับ 2 เรื่องก็คือต้น ทุนค่า เชื้อเพลิง คือแก๊สนะครับ กับค่า FT นะครับ เพราะนั้นถ้าเกิดค่า FT ที่ถูกกด ไว้ต่ำมากเนี่ย ก็จะหมายความว่ากำไรก็จะลดลงนะฮะ ซึ่งเวลา FT ที่กดต่ำมากเนี่ย มันก็จะทำให้การขายไฟของไม่ใช่เฉพาะของ ของโรงไฟฟ้าอย่าง พวกเราอย่างเดียว นะครับ ที่ผมทราบมาก็ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเนี่ยถ้าเกิด ต่ำมากแล้วต้น ทุนเชื้อเพลิงสูง เนี่ยก็จะขาดทุนเหมือนกันนะฮะ ก็เหมือนมี ในช่วงปี 2-3 ปีที่ผ่านมาที่มีวิกฤตเรื่องพลังงานเนี่ย ก็จะเห็นว่าโรงไฟฟ้าที่ขายจงให้กับ อ่า ลูกค้า IU เป็นหลักเนี่ยนะครับก็อาจจะมีผลกระทบที่มีงบ ที่อาจจะ จะขาดทุนในส่วนที่ขาย IU นะครับ แต่ตอนนี้ก็ถือว่ากลับใน กลับมาในสถานการณ์ที่ค่อนข้างปกติแล้วนะฮะ ค่า อ่า ค่าเชื้อเพลิงค่าแก๊สก็ ต่ำลงมา อยู่ในเกณฑ์ที่ เหมาะสมแล้วนะครับ แล้วก็ค่า FT อะไรก็ ทาง ทางภาครัฐก็ยัง ยัง รักษา ระดับของค่า FT ไว้ที่ผมคิดว่าก็อยู่ในเกณฑ์ที่ ที่ ทำธุรกิจได้ ดีกว่า

มีโอกาสที่รายได้ประจำจะเพิ่มขึ้นได้ไหม?

อย่างที่เห็นกันเราจะมีการขยาย พยายามขยาย Facility ที่เป็นสร้างรายได้ประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้านะครับ ธุรกิจเรื่องกิจการน้ำตอนนี้ก็มีการขายให้การประปาแล้วก็คาดว่าจะมีการเจรจา จำนวนที่ได้เยอะขึ้นกว่าเดิมหรือแม้กระทั่งสัญญาใหม่ๆ ที่เราอาจจะมีโอกาส ไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนตรงการประปาเพิ่มขึ้นด้วยนะครับ เป็นเป้าประสงค์หลักของเราอยู่แล้วที่จะสามารถสร้างกำไร รายได้ประจำสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นนะครับ

โครงการอย่างลักษณะที่ Smart City แอปพลิเคชั่นนวะ นวนคร นวะ Smart Li เนี่ยนะครับก็ จะสู่ในช่วงของ Commercial phase ที่เราจะ มีแผนพัฒนาให้สามารถ อ่า เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงพาณิชยกรรมกับผู้บริโภคเข้าหากันได้ ก็น่าจะมีรายได้ส่วนนั้นเข้ามาได้ ตอนนี้ก็อยู่ในส่วนของการ อ่า พัฒนาตรงนี้ด้วยนะ

ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ร่วมบริษัท ร่วมส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจไฟฟ้าเนาะ?

ส่วนแบ่งกำไรจาก กิจการร่วมค้า ในปีที่ผ่านมา ที่เรา รับรู้กำไรลดลงนะครับก็ สาเหตุหลักนะครับก็มาจากโรงไฟฟ้า เอ่อ ขนาด 30 เมกะวัตต์ นะครับซึ่งในปีที่ผ่านมาเนี่ย อ่า ครึ่งปีแรกเนี่ยเป็นอยู่ในช่วง develop นะครับหรือว่า pre operating นะครับ แล้วก็ ในช่วงครึ่งปีหลังก็เป็นช่วง อ่า เริ่ม COD มาตั้งแต่เดือนประมาณพฤษภาคมนะครับ ก็ระหว่าง อ่า Develop เราก็รับรู้ส่วนขาดทุนอยู่แล้ว แล้วก็ในช่วงที่เริ่ม เอ่อ เริ่ม COD เราก็เริ่มรับรู้ค่าเสื่อมเข้ามาใน ในการบันทึกบัญชีด้วยนะครับ แล้วก็ลูกค้าก็ อ่า เริ่ม เริ่ม เริ่มจ่ายไฟให้ลูกค้านะครับ ดัง นั้นคือมันก็จะมีช่วง ขาดทุนตรงนั้นเข้ามาให้เรารับรู้นะครับ ก็ ในภาพรวมเอง ก็เลยทำให้ อ่า รับรู้กำไรในกิจการร่วมค้าภาพรวมเนี่ย ตอบตัวลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 40 ล้านได้ ประมาณนี้ครับ

ธุรกิจใหม่ๆ บางทีก็ต้องมีการ เริ่ม เริ่มต้นทำธุรกิจอาจจะมีผลกระทบอะไรบ้างในการปูตลาดอะไรต่างๆ ก็ อ่า เดี๋ยวพอทำไปพักนึงก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ แล้วก็นอกจาก นอก จากนั้นก็ยังมี อ่า แผนพัฒนาต่างๆ ที่อาจจะมี อ่า โครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องนะครับ

สรุปได้ว่า NNCL ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการขยายการลงทุนในพลังงานและสาธารณูปโภค ควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงทางการเงินและผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่บริษัทก็ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ และปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว