สรุปงบล่าสุด NEP

บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (NEP) ปี 2567 (ปรับปรุง)
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (NEP) ในปี 2567 โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในปี 2567 NEP มีรายได้จากการขายรวม 22.02 ล้านบาท ลดลง 82.60% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้ 126.56 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการยุติการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระสอบพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิ 8.25 ล้านบาท เทียบกับปี 2566 ที่ขาดทุนสุทธิ 36.36 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสั่งซื้อของลูกค้าที่ลดปริมาณการสั่งซื้อและไม่เก็บสต็อกสินค้า ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปรับตัวโดยการยุติธุรกิจที่มีผลขาดทุน และมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย Bio-Circular-Green Economy ของรัฐบาล
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากการขาย:** ลดลงอย่างมากจากการยุติธุรกิจเดิม แต่เริ่มมีรายได้จากการขายภายใต้แบรนด์ VAVA Z ในธุรกิจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567
* **ต้นทุนขาย:** ลดลงตามรายได้ที่ลดลง
* **กำไรขั้นต้น:** มีกำไรขั้นต้น 2.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.86% ของยอดขายจากส่วนการดำเนินงานต่อเนื่อง
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** ลดลง 37.67% จากการลดค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน และการจำหน่ายสินทรัพย์
* **ค่าใช้จ่ายทางการเงิน:** ลดลง 63.66% เนื่องจากการไม่มีหนี้สินระยะยาวจากสถาบันการเงิน และการลดการสั่งซื้อวัตถุดิบ
* **ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม:** ลดลงเล็กน้อย 0.63 ล้านบาท
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ลดลง 3.81%
* **สินทรัพย์หมุนเวียน:** ลดลง 21.78%
* **สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน:** ลดลง 2.95%
* **หนี้สินรวม:** ลดลง 86.60% จากการชำระหนี้สินหมุนเวียน และหนี้สินตามสัญญาเช่า
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** เพิ่มขึ้น 1.45% จากผลกำไรสุทธิ
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากหนี้สินลดลงมาก ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นของบริษัท
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
ไม่มีข้อมูล
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
**ปัจจัยความเสี่ยง:**
* สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
* การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและข้อบังคับ
* ความเพียงพอของกำลังการผลิต
* การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
* เสถียรภาพทางการเมือง
**โอกาสในการลงทุน:**
* ธุรกิจใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของรัฐบาล
* การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ VAVA Z
* การขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
**7. ความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล (ESG):**
* **ด้านเศรษฐกิจ:** บริษัทฯ ได้รับผลการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ด้วยคะแนน 95% ระดับดีเยี่ยม สะท้อนถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสีย
* **ด้านสังคม:** การดำเนินธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ VAVA Z มีส่วนร่วมในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
* **ด้านสิ่งแวดล้อม:** การผลิตสินค้าแบรนด์ VAVA Z เป็นรูปแบบ Circular Upcycling ที่เพิ่มมูลค่าจากเศษวัสดุหมุนเวียนและใช้วัตถุดิบ Recycle ช่วยลดความต้องการพลาสติกผลิตใหม่ ลดขยะจากการฝังกลบ และลดการใช้พลังงานและทรัพยากร
**8. สรุป:**
ในปี 2567 NEP ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นผลประกอบการจากขาดทุนสุทธิเป็นกำไรสุทธิ แม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลงอย่างมากจากการยุติธุรกิจเดิม แต่บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเริ่มมีรายได้จากธุรกิจใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งขึ้นจากหนี้สินที่ลดลง นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล
โดยรวมแล้ว NEP ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงธุรกิจเพื่อความอยู่รอด การเติบโตในอนาคตของบริษัทฯ ขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการพัฒนาและขยายธุรกิจใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG
**หมายเหตุ:** ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากรายงานของบริษัทฯ ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ESG การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาข้อมูลอื่นๆ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนก่อนตัดสินใจ
(217.37%)
(78.46%)
(478.95%)
(126.23%)
(82.40%)
(221.77%)
(4.54%)
(76.35%)
(300.69%)
(122.81%)
(26.49%)
(22.16%)