NDR
บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567

สรุป OPPDAY

NDR Opportunity Day สรุปผลประกอบการปี 2567: มุ่งสู่พันล้าน, ขยายตลาด, และลงทุนเพื่ออนาคต

สรุปผลการประชุม Opportunity Day ของ NDR ประจำปี 2567 และไตรมาส 4 ที่ผ่านมา โดยเน้นภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ, โอกาสทางธุรกิจ, ความเสี่ยง, แนวทางการแก้ไข, แนวโน้มในอนาคต, และช่วงถาม-ตอบ

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
  2. ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567: มีรายได้ 240.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2566

    สัดส่วนรายได้: ผลิตภัณฑ์ยางนอกรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นสัดส่วนรายได้ที่มากที่สุด, ชิ้นส่วนยานยนต์ลดลงจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ชะลอตัวในประเทศไทย

    พื้นที่การขาย: การส่งออก 153.7 ล้านบาท, ในประเทศ 87.19 ล้านบาท ทั้งในประเทศและต่างประเทศเติบโตขึ้น

    กำไรขั้นต้น: ใกล้เคียงกันอยู่ที่ 19.2% ในปี 2567 ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4 ปีก่อน แต่ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน

    ผลกระทบพิเศษ: มีการบันทึกขาดทุนจากการขาย Ithran ออกไปประมาณ 9 ล้านบาท ทำให้งบในไตรมาส 4 ดูเหมือนจะขาดทุน แต่โดยรวมทั้งปีแล้ว NDR ไม่ได้ขาดทุน

    ภาพรวมทั้งปี 2567: มีรายได้จากการขาย 918 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีรายได้ 836 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นประมาณ 10%)

    สัดส่วนการขาย: ตลาดต่างประเทศเติบโตขึ้นค่อนข้างมาก จาก 434 ล้านบาท เป็น 568 ล้านบาท

    กำไรขั้นต้นทั้งปี: อยู่ที่ 19.5% เพิ่มขึ้นจาก 17.1% ในปี 2566

    กำไรสุทธิ: 7.85 ล้านบาท กลับจากปี 2566 ที่ขาดทุน ส่วนหนึ่งมาจากการด้อยค่าการลงทุน Ithran

    สินทรัพย์: เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุน PP ให้กับ EG และการตั้ง Electronic

    หนี้สิน: ลดลง เนื่องจากมีการคืนหนี้สถาบันการเงินไปบางส่วน

  3. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
  4. Absolute Clean Power Energy จะเข้ามาถือหุ้นใน NDR Green (เพิ่มทุน 1.2 ล้านบาท)

    NDR Green: สั่งซื้อเครื่องจักรเพื่อผลิตถ่านชีวมวล (คาดว่าจะมาถึงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม)

    Electronic: ติดตั้งเครื่องจักร คาดว่าจะดำเนินธุรกิจได้ภายในปี 2568

    ESG Project: ติดตั้ง Solar Roof (กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3.1 MW)

  5. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
  6. ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ (โดยเฉพาะยางธรรมชาติ)

    สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี

    การแข่งขันในตลาดที่สูง

  7. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
  8. ควบคุมการบริหารจัดการการจัดซื้อวัตถุดิบ

    เจรจาต่อรองราคากับซัพพลายเออร์

    ซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า

    ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในโรงงาน

    ลดการใช้กระดาษในองค์กร

    ลงทุนในเครื่องจักรอัตโนมัติ

  9. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
  10. แผนการดำเนินงานปี 2568: ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรผลิตถ่านชีวมวลให้เสร็จในเดือนพฤษภาคม เริ่มผลิตในเดือนมิถุนายน

    วางแผนสั่งเครื่องจักรล็อตใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตถ่านชีวมวลในปลายปี

    คาดการณ์ว่า Testing Center จะติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จในไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปลายไตรมาส 3

    เน้นการขายยางนอกที่ไม่ใช่ยางในสำหรับตลาดในประเทศ และขยายตลาดใหม่ ๆ ในตลาดส่งออก

    คงมีกลยุทธ์ในการรักษา Gross Margin ให้อยู่ในระดับเดียวกับปี 2566-2567

    ตั้งเป้าลดการใช้กระดาษในองค์กร

    ลงทุนในเครื่องจักรที่เป็นระบบ Automation เพื่อลดการใช้กำลังคนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

  11. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:37:28]
    1. Gross Profit ไตรมาส 4/67 เทียบกับไตรมาส 1/68:
      • ยางธรรมชาติยังมีแนวโน้มราคาเป็นขาขึ้น แต่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไม่ดี Demand ไม่น่าจะสูงขึ้นมาก
      • คาดว่าราคาวัตถุดิบจะทรงตัวในระดับสูง อาจจะไม่สูงไปกว่านี้ แต่ก็ลงยาก
      • Gross Profit ไตรมาส 4/67 กับ ไตรมาส 1/68 อาจจะใกล้เคียงกัน แต่อาจจะ Drop จากไตรมาส 4 ปีที่แล้วเล็กน้อย
      • ใช้วิธีการ Control วัตถุดิบตัวอื่น และควบคุมประสิทธิภาพการผลิต
    2. NDR บริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบอย่างไร:
      • แบ่งกลุ่มวัตถุดิบเป็นกลุ่มที่ Control ไม่ได้ (ยางธรรมชาติ) กับกลุ่มที่ Control ได้
      • แบ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อล่วงหน้าได้ กับกลุ่มที่ซื้อล่วงหน้าไม่ได้
      • ยางธรรมชาติ Control ยาก ต้องจับตาดูทุกวัน และใช้การ Book ซื้อล่วงหน้า
      • วัตถุดิบที่ Control ได้ เจรจาต่อรองราคากับ Supplier
      • วัตถุดิบที่ซื้อล่วงหน้าได้ ซื้อเป็นไตรมาส
      • วัตถุดิบที่ไม่สามารถซื้อล่วงหน้าได้ Control ราคาเป็นรายเดือน
    3. แนวโน้มวัตถุดิบปี 2568:
      • ยางธรรมชาติยังเป็นขาขึ้น
      • วัตถุดิบอื่น ๆ เช่น เขม่า, ไนล่อน ผันผวนตามราคาน้ำมัน
      • ภาพรวมปี 2568 ราคาวัตถุดิบน่าจะใกล้เคียงกับปี 2567
    4. บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างไร:
      • ตลาดในประเทศค่อนข้างเต็มพื้นที่ (มีการแข่งขันสูง)
      • NDR เน้นขยายในประเทศด้วยการ Branding และ Marketing
      • มีแผนการตลาดที่ชัดเจน และมี Presenter ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้ Brand เป็นที่รับรู้มากขึ้น
      • ตลาดต่างประเทศ เน้นรักษาตลาดที่ขายอยู่แล้ว และขยายตลาดที่พึ่งเข้าไปใหม่
      • ตลาดที่ไม่เคยเข้าไป เน้นการหาลูกค้าใหม่
    5. เป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 2568:
      • ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท (Challenge)
      • ปี 2567 ได้ 918 ล้านบาท
      • ต้องการเติบโตไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว
    6. บริษัทลูกในประเทศมาเลเซียมีผลประกอบการอย่างไรบ้าง คาดว่าแนวโน้มปีหน้าจะเป็นอย่างไร:
      • FKR ในมาเลเซียปี 2567 ค่อนข้างดีกว่าปี 2566 (มีผู้ผลิตรายหนึ่งปิดกิจการลง)
      • คาดว่าปี 2568 น่าจะต่อเนื่องจากปี 2567 ได้ แต่อาจจะไม่เติบโตเท่าปี 2567 ที่เทียบกับปี 2566
      • เชื่อว่ายังคงสามารถรักษาการเติบโต และรักษาผลกำไรที่ดีได้
    7. อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกับบริษัทมากน้อยเพียงใด:
      • มีผลบ้าง แต่อาจจะไม่ได้มากนัก
      • บางประเทศขายเป็นเงินบาท
      • มาเลเซียขายเป็นริงกิต (Contrad กันเองระหว่างบริษัทลูกบริษัทแม่)
      • ตลาดอื่น ๆ ที่ขายเป็น US Dollar เก็บ US ไว้จ่ายค่าวัตถุดิบ
    8. ความคืบหน้าปัจจุบันของโครงการใหม่ในบริษัทลูก และแผนงานสำหรับปี 2568:
      • Bio-Char เครื่องจักรดำเนินการสั่งไปแล้ว (จะเข้ามาถึงประมาณเมษายน-พฤษภาคม)
      • ตั้งเป้า Mass Production ให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน ไม่เกินเดือนกรกฎาคม
      • Testing Center เครื่องจักรติดตั้งอยู่ รอ Approve จากลูกค้า
      • คาดว่าจะเริ่มดำเนินการธุรกิจได้ในไตรมาสที่ 3
      • ธุรกิจอื่น ๆ ยังไม่มี Project ในธุรกิจอื่น ๆ โฟกัสใน 2 เรื่องนี้ก่อน
    9. บริษัทมีแผนจะลงทุน หรือมีโครงการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่:
      • ทุ่มเทและโฟกัสไปที่ 3 ธุรกิจ (ยางมอเตอร์ไซค์, Bio-Char, Testing Center)
      • ยางมอเตอร์ไซค์ เน้นปรับโรงงานให้เป็น Automation และ Green Factory
      • ถ้า 3 ตัวนี้ นิ่งเมื่อไหร่ ค่อยมาว่ากันอีกที

โดยสรุป, NDR ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้และกำไรในปี 2567 แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากราคาวัตถุดิบและความผันผวนทางเศรษฐกิจ บริษัทมีแผนที่จะเติบโตต่อไปโดยการขยายตลาด, พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน