สรุปงบล่าสุด MST
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ หุ้น MST บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)**
**สรุปสั้น:**
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3 ปี 2568 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิ 64.12 ล้านบาท ลดลง 82.47 ล้านบาท หรือ 56.26% สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่านายหน้า, รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ, และรายได้ดอกเบี้ย
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2568 ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (-56.26%) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของ:
* **รายได้ค่านายหน้า:** ลดลง 49.68 ล้านบาท (-16.37%) เนื่องจากการลดลงของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ และสัดส่วนนักลงทุนบุคคล
* **รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ:** ลดลง 36.76 ล้านบาท (-49.72%) เนื่องจากการลดลงของค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์
* **รายได้ดอกเบี้ย:** ลดลง 73.34 ล้านบาท (-28.40%) เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรรัฐบาล
* **รายได้อื่น:** ลดลง 12.11 ล้านบาท (-15.42%)
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 68.77 ล้านบาท (-12.95%) และภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 20.65 ล้านบาท (-56.68%) แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการลดลงของรายได้ได้
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ และการลดลงของปริมาณการซื้อขายโดยนักลงทุนรายย่อย
**สรุปสั้นท้ายสุด:**
การลดลงของรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท การลดลงของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ค่านายหน้า การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยเป็นผลมาจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการลดลงของปริมาณการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาส่วนแบ่งการตลาด และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
**อ้างอิง:** ทีѷ MST 146/2568
**สรุปผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568**
**สรุปสั้น:**
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 198.00 ล้านบาท ลดลง 166.72 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 45.71 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า (-45.71%) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของ:
* **รายได้ค่านายหน้า:** ลดลง 90.18 ล้านบาท (-11.42%) เนื่องจากการลดลงของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ และสัดส่วนนักลงทุนบุคคล
* **รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ:** ลดลง 70.09 ล้านบาท (-44.44%) เนื่องจากการลดลงของค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และค่าที่ปรึกษาทางการเงิน
* **รายได้ดอกเบี้ย:** ลดลง 130.88 ล้านบาท (-16.28%) เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรรัฐบาล และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์
* **รายได้อื่น:** ลดลง 6.38 ล้านบาท (-2.40%)
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 91.15 ล้านบาท (-5.84%) และภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 39.67 ล้านบาท (-43.70%) แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการลดลงของรายได้ได้
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงเป็นความผันผวนของตลาดหลักทรัพย์ และการลดลงของปริมาณการซื้อขายโดยนักลงทุนรายย่อย
**สรุปสั้นท้ายสุด:**
การลดลงของรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิของบริษัท การลดลงของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ค่านายหน้า การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยเป็นผลมาจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการลดลงของปริมาณการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ บริษัทฯ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาส่วนแบ่งการตลาด และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
**อ้างอิง:** ทีѷ MST 147/2568
(11.78%)
(24.07%)
(5.92%)
(25.14%)
(5.24%)
(1.40%)
(8.38%)
(1.68%)
(2,830.35%)
(56.26%)
(26.24%)
(21.65%)