สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) MODERN มีรายได้รวมในไตรมาส 2 ปี 2567 เท่ากับ 637.4 ล้านบาท ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการชะลอการส่งมอบงานโครงการในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและบ้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนรวมลดลง 7.0% โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการลดค่าใช้จ่ายค่าเพื่อหนี้สงสัยจะสูญ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ 73.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 474.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566

MODERN มีแผนธุรกิจมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและบ้าน ผ่านการส่งมอบงานโครงการ และการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านโชว์รูมและตัวแทนจำหน่าย บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในอนาคต โดยเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้คงที่ การลงทุนในระบบเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

จากการวิเคราะห์ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง MODERN มีอัตรากำไรสุทธิในช่วง 6 เดือน ปี 2567 เท่ากับ 1.0% ลดลง 0.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าอัตรากำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อย แต่การบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และการที่มี D/E ต่ำกว่า 1 สะท้อนให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้มีโอกาสในการกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และ P/E ล่าสุดที่ -100 สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่ต่ำของนักลงทุน

**โอกาส**
* บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มี D/E ต่ำกว่า 1 ช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจ
* บริษัทฯ มีโอกาสในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากมีการส่งมอบงานโครงการและการขยายช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง
* การพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ จะช่วยเพิ่มยอดขายและความสามารถในการแข่งขันในอนาคต

**ความเสี่ยง**
* การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการเฟอร์นิเจอร์
* การแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์สูง ทำให้บริษัทฯ ต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มแข็ง
* ภาวะเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต

MODERN อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว และรอการเติบโตของธุรกิจ แต่ต้องติดตามผลประกอบการและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน