/15

เดือนนี้ / เดือนก่อน

107/51

ปีนี้ / ปีก่อน

  • hoonsmart

    MFC ชี้เป้า RMF – ThaiESG กระจายลงทุนปั้นพอร์ตโตระยะยาว 28/11/68

    HoonSmart.com>>บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ชี้เป้า 7 กองทุน RMF-ThaiESG ลดหย่อนภาษี แนะวางแผนกระจายลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาว เน้นกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ ทนทานกับทุกสภาวะตลาด รับสิทธิลดหย่อนภาษีปีนี้ สูงสุดถึง 800,000 บาท นายเชาวน์กร โชติบัณฑ์ Executive Vice President – Head of Investment Strategy บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC ) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า ในปีนี้นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี สูงสุด 800,000 บาท แบ่งเป็นจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 500,000 บาท และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) 300,000 บาท การวางแผนภาษีและกระจายการลงทุนทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ระยะยาว ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกยังมีความผันผวน แต่การลงทุนในพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน ซึ่งทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ ซึ่ง MFC ประเมินช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 ถึงต้นปี 2569 แนวโน้มตลาดหุ้นโลกยังขยายตัวได้ต่อและไม่น่าจะมีปัจจัยลบเชิงรุนแรงกดดันภาพรวมตลาดในระยะสั้น การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีจำเป็นต้องมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เชาวน์กร โชติบัณฑ์ สำหรับกองทุน RMF ที่แนะนำมี 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (M-FIX) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 4 นโยบายลงทุนตราสารหนี้คุณภาพ เหมาะกับช่วงที่ตลาดรอดูทิศทางดอกเบี้ย เป็นกองทุนที่อยู่ในกลุ่ม Mid-Term Bond เหมาะสำหรับใช้พักเงินระยะสั้น มีสภาพคล่องสูง โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำกว่าหุ้น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล สตราทีจิค อัลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (MGALL-RMF)เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก SPDR® Bridgewater® All Weather® ETF (ALLW) ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิดพอร์ต All Weather ให้มีความยืดหยุ่น และสามารถรับมือกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้ทั้งในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว เงินเฟ้อสูง หรือเศรษฐกิจถดถอย กองทุนหลักมีการบริหารแบบเชิงรุก และกระจายลงทุนในหุ้น พันธบัตร ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก บริหารจัดการโดย Bridgewater ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารเงินลงทุน (Hedge Fund) ชั้นนำของโลก ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1975 โดย Ray Dalio มีประสบการณ์ยาวนานในการบริหารพอร์ตแบบหลายสินทรัพย์ (Multi-asset) ทั้งนี้ กองทุน MGALL-RMF จัดอยู่ในระดับความเสี่ยง 5 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล โฟกัส เพื่อการเลี้ยงชีพ (MGFRMF) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6 ลงทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก (Quality Growth Stock) ผ่านกองทุนหลัก Threadneedle (Lux) Global Focus Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ มีความได้เปรียบในการแข่งขัน มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด เนื่องจากหุ้นเติบโตคุณภาพดี มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง มีกำไรและรายได้เติบโตสม่ำเสมอ โดยกองทุนหลักจะคัดเลือกหุ้นโดยเน้นหุ้นเติบโตคุณภาพดี กระจายพอร์ตลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้ง Information Technology, Industrials และ Financials และกองทุนหลักได้รับ Morning Star 5ดาว เหมาะกับใช้เป็นพอร์ตหลัก เลือกลงทุนได้ทั้งแบบระยะยาวหรือลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี เพื่อการเลี้ยงชีพ (MRENEWRMF) ลงทุนหุ้นเกี่ยวข้องกับพลังงานยั่งยืนและพลังงานทดแทนทั่วโลก (Renewable Energy) ที่จะมาทดแทนพลังงานจากเชื้อเพลิงในรูปแบบเก่า ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก BGFSustainable Energy Fund เน้นลงทุน 3 ธีมหลัก ได้แก่ Clean Power, Energy Efficiency และ Clean Transportation จัดสรรน้ำหนักการลงทุนให้ใกล้เคียงกัน เพื่อกระจายการลงทุนให้พอร์ตรวมมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยพอร์ตการลงทุนมีหุ้น 30-60 บริษัท เป็นหุ้นคุณภาพขนาดใหญ่ Market Cap มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งในสหรัฐฯ และภูมิภาคยุโรป เน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มั่นคง (Large-cap) มีงบการเงินแข็งแกร่ง ทนทานต่อทุกภาวะเศรษฐกิจ และมีความผันผวนต่ำ กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 7 ส่วนกองทุน ThaiESG แนะนำ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีตราสารภาครัฐไทยเพื่อความยั่งยืน (MSOV-ThaiESG) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 3 เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารภาครัฐไทย รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ และสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (ESGBOND) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเฟล็กซิเบิลไทยเพื่อความยั่งยืน (MFLEX-ThaiESG) กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 5 กองทุนผสมระหว่างหุ้น กับตราสารหนี้ที่มี ESG Rating Score สูง เน้นสร้างผลตอบแทนและลดความผันผวนตามสภาวะตลาด SETESG TRI 70% + ThaiBMA ESG Bond Index 30% ซึ่งมีความหยืดหยุ่น สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ตามสภาวะตลาด โดยทีมลงทุนมีความชำนาญในการบริหารกองทุนผสมกว่า 20 ปี เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาว คาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และสามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนจากราคาหุ้นได้ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีท็อป 25 หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน (MT25-ThaiESG) เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืนตัวท็อป 25 บริษัท จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ SETESG Index Diversified Sector มีการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละ Sector โดยกระจายแต่ละ Sector ไม่เกิน 5 หลักทรัพย์ เหมาะกับ ผู้ลงทุนที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาว สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนจากราคาหุ้นได้ กองทุนนี้มีความเสี่ยงระดับ 6 สำหรับนักลงทุนที่ซื้อกองทุนภาษี RMF, ThaiESG ที่ร่วมรายการกับ MFC ทุก 50,000 บาท รับกองทุนพันธบัตรรัฐบาล MMGOVMF มูลค่า100 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธ.ค. 68 เท่านั้น

  • thunhoon

    MFC  ชี้เป้ากองทุน RMF – ThaiESG ลดหย่อนภาษี  สูงสุด 8 แสนบาท 28/11/68

    MFC  ชี้เป้ากองทุน RMF – ThaiESG ลดหย่อนภาษี  สูงสุด 8 แสนบาท #ทันหุ้น #SET #MFC บลจ.เอ็มเอฟซี ชี้เป้า 7 กองทุน RMF-ThaiESG ลดหย่อนภาษี แนะวางแผนกระจายการลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาว คัดสรรการลงทุน เน้นกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์ ทนทานกับทุกสภาวะตลาด พร้อมเปิดโอกาสรับสิทธิลดหย่อนภาษีปีนี้ สูงสุดถึง 800,000 บาท นายเชาวน์กร  โชติบัณฑ์  Executive Vice President – Head of Investment Strategy บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า ในปีนี้นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษี สูงสุด 800,000 บาท แบ่งเป็นจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 500,000 บาท และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) 300,000 บาท  การวางแผนภาษีและกระจายการลงทุนทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ระยะยาว

  • mitihoon

    MFC คลอดกองRMF ลุยลงทุนหุ้นทั่วโลก 26/11/68

    มิติหุ้น – นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี หรือ MFC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า MFC ได้นำเสนอกองทุนใหม่ กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล สตารทีจิค อัลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (MGALL-RMF) ช่วยให้การลดหย่อนภาษีได้อย่างมั่นใจแม้ในภาวะตลาดจะผันผวน และ มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ SPDR® Bridgewater® All Weather® ETF (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ “จุดเด่นของกองทุน MGALL-RMF เป็นพอร์ตการลงทุนแบบ ALL Weather ช่วยกระจายความเสี่ยงและหาผลตอบแทนได้ทุกสภาวะเศรษฐกิจ ได้รับการออกแบบมาเพื่อกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์หลักทั่วโลก ได้แก่ หุ้นทั่วโลก, พันธบัตร, พันธบัตรที่เชื่อมโยงกับเงินเฟ้อ, ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ ” นายธนโชติ กล่าว สำหรับกองทุน MGALL-RMF เป็นกองทุนรวมผสมต่างประเทศ ประเภท Feeder Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ มีระดับความเสี่ยง 5 เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 26 พฤศจิกายน – 9 ธันวาคม 2568 เงินลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 1,000 บาท ครั้งต่อไป 500 บาท

  • hoonsmart

    MFC เปิดตัวกองภาษี MGALL-RMF ชูกลยุทธ์ ALL Weather ฝ่าผันผวน 26/11/68

    HoonSmart.com>>”บลจ.เอ็มเอฟซี” (MFC) ส่งกองทุน “MGALL-RMF” ขาย IPO ระหว่าง 26 พ.ย.-9 ธ.ค.นี้ ชูกลยุทธ์ลงทุนแบบ ALL Weather กระจายลงทุนสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก สร้างผลตอบแทนได้ทุกสภาวะเศรษฐกิจ ผ่าน “SPDR® Bridgewater® All Weather® ETF”(ALLW) กองทุนชั้นนำ ช่วยเพิ่มความมั่นใจลงทุน พร้อมลดหย่อนภาษีฝ่าตลาดผันผวน นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFCฉ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า MFC ได้นำเสนอกองทุนใหม่ กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล สตารทีจิค อัลโลเคชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (MGALL-RMF) ช่วยให้การลดหย่อนภาษีได้อย่างมั่นใจแม้ในภาวะตลาดจะผันผวน โดยการจัดพอร์ตในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน กองทุน MGALL-RMF มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ SPDR® Bridgewater® All Weather® ETF (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งกองทุนหลักจดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq โดยมี SSGA Funds Management, Inc. เป็นที่ปรึกษาการลงทุน และมี Bridgewater Associates, LP เป็นที่ปรึกษาย่อยด้านการลงทุน กองทุนหลักมีการบริหารจัดการในเชิงรุก (actively managed) ที่มีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก

  • hoonsmart

    MFC เปิดตัวกองทุน “MSILVER” ลงทุนหุ้นเหมืองเงิน โลหะ ดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง 24/11/68

    HoonSmart.com>>บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เสิร์ฟกองทุนใหม่ “เอ็มเอฟซี โกลบอล ซิลเวอร์ แอนด์ เมทัลส์ ไมเนอร์ส” (MSILVER) ชูโอกาสลงทุนครอบคลุม “หุ้นบริษัทที่ทำเหมืองเงินและโลหะทั่วโลก” รับดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง ผลิตได้จำกัด หนุนแร่เงินขึ้นแท่น “โลหะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ตามเมกะเทรนด์โลก ขณะที่ “นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย” หนุนหุ้นเหมืองแร่เงินเป็นสินทรัพย์โดดเด่น ช่วยเสริมพอร์ตการลงทุน IPO 25 พ.ย.-2 ธ.ค.68 นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า แร่เงิน (Silver) ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะโลหะมีค่าและเป็นโลหะที่สำคัญในภาคอุตสาหกรรม บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เปิดตัว “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ซิลเวอร์ แอนด์ เมทัลส์ ไมเนอร์ส”หรือ MSILVER ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศลงทุนในหุ้นที่ครอบคลุมทั้งบริษัทที่ทําเหมืองเงินและบริษัทเหมืองโลหะมีค่าอื่นๆ ผ่านการลงทุนในกองทุน iShares MSCI Global Silver and Metals Miners ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Cboe BZX และบริหารจัดการลงทุนโดย Blackrock ผู้จัดการสินทรัพย์และ ETF provider ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกด้านการสำรวจหรือการทำเหมืองแร่เงิน (Silver) หรือโลหะที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างผลตอบแทนโดยล้อไปกับดัชนี MSCI ACWI Select Silver Miners Investable Market Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นจำนวน 25 บริษัท ในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ ด้านผลตอบแทนของเฉลี่ยต่อปีกองทุนหลัก ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 68 ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 87.78% ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 42.86% ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 12.62% และย้อนหลัง 10 ปี อยู่ที่ 16.90% ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

  • hoonsmart

    MFC คว้า 2 รางวัล “บลจ.ดีเด่น” 2 ปีซ้อนกองสำรองเลี้ยงชีพ โชว์ 9 เดือนแรก AUM กว่า 1.3 แสนล้าน โต 17.24% 21/11/68

    HoonSmart.com>>บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) คว้ารางวัล “บลจ.ดีเด่น” 2 ปีซ้อน ประเภทกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มหน่วยงานทุกประเภท Single Fund หรือ Pooled Fund” และรางวัลรองชนะเลิศประเภท”Pooled Fund ทุกขนาดกองทุน” ประจำปี 2568 จากการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ประจำปี 2568 ขณะที่ผลงาน 9 เดือนปีนี้ มูลค่า AUM เฉียด 1.3 แสนล้านบาท โตโดดเด่น 17.24% พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพการบริหารจัดการ เพื่อการลงทุนยั่งยืน นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า MFC ประสบความสำเร็จอีกครั้งจาก “รางวัลบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ดีเด่น ประเภทกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มหน่วยงานทุกประเภท Single Fund หรือ Pooled Fund รับโล่รางวัลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้รับรางวัลซ้อนเป็นปีที่ 2 และรางวัลรองชนะเลิศ ประเภทกองทุนร่วม (Pooled Fund) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่จัดการกองทุนร่วม (Pooled Fund) ทุกขนาดกองทุน” จาก “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเอ็มเอฟซี มาสเตอร์ฟันด์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว” ได้รับโล่รางวัลกระทรวงการคลัง จากการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 13 ประจำปี 2568 จัดโดยสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ “รางวัลที่ได้รับ เป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ MFC และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมาย 3-5 ปีข้างหน้า เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่เน้นผลประโยชน์สูงสุดของสมาชิก และเป็น Top 3 ในอุตสาหกรรม” นายธนโชติ กล่าว

  • hoonsmart

    MFC เปิดตัวกอง M-HD หุ้นไทยปันผลสูง เแข็งแกร่งรับมือทุกสภาวะตลาด 20/11/68

    HoonSmart.com>>​บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดตัว “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน” (M-HD) เพิ่มทางเลือกลงทุน “หุ้นปันผลไทย” ราคายังไม่แพง อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง โอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว พร้อมรับมือความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายเฟด ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ มองแนวโน้มหุ้นไทยปี 69 ฟื้นตัวต่อเนื่อง เปิดขาย IPO 21-27 พ.ย 68 ​นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บลจ.เอ็มเอฟซี นำเสนอ “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน” หรือ “M-HD” มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีผลตอบแทนรวม SET High Dividend 30 (SETHD TRI) เป็นหลัก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เปิดเสนอขาย IPO ครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-27 พ.ย.2568 เงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท ​สำหรับดัชนี SETHD TRI รวบรวมหุ้นไทยที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง 30 บริษัท ซึ่งมีเกณฑ์คัดเลือกที่สำคัญ โดยต้องเป็นหุ้นในดัชนี SET100 มีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง 3 ปีและมีอัตราการจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 100% ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะปรับรายชื่อหุ้นในดัชนี SETHD ทุกๆ 6 เดือน (มิ.ย.และธ.ค.) ทั้งนี้ อุตสาหกรรมหลักของหุ้น ที่อยู่ในดัชนี SETHD ได้แก่ กลุ่มธนาคาร มีสัดส่วนสูงถึง 55% ของน้ำหนักรวมทั้งหมดในดัชนี รองลงมากลุ่มพลังงาน 24% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8% กลุ่มพาณิชย์ 4% และกลุ่มอาหาร 4% (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 68)

  • set
  • set
  • fin