สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 และอนาคตการลงทุน

บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MATCH ได้เปิดโครงการ “สตูดิโอเสมือนจริง” โดยบริษัท เดอะ สตูดิโอ พาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทย่อยซึ่งบริษัทถือหุ้น 99.99%) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสตูดิโอเพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับมาตรฐานสากล ร่วมกับบริษัท สเตจฟอร์ จำกัด และบริษัท สุพรีม สตูดิโอ จำกัด ร่วมดำเนินธุรกิจให้บริการสตูดิโอถ่ายทําภาพยนตร์เสมือนจริง (Virtual Production) ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า “The Studio” สตูดิโอดังกล่าวมีการติดตั้งจอภาพเสมือนจริง (LED Wall) ที่ใหญ่ที่สุดพร้อมด้วยระบบเทคโนโลยีสำหรับงาน Virtual Production ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เพื่อรองรับการถ่ายทําภาพยนตร์ทุกประเภทของกองถ่ายทําภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 โดยที่ประชุมมีมติอนุมัติการโอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 10.66 ล้านบาทและส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 550.58 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 561.24 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ MATCH มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของ Virtual Production ที่เป็นเทรนด์ใหม่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ บริษัทคาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดงานถ่ายทำจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยได้มากขึ้น บริษัทยังมีเป้าหมายในการขยายบริการด้าน Content และการร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้าเกี่ยวกับธุรกิจผลิตภาพยนตร์ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดหวังว่ารายได้จากสตูดิโอเสมือนจริงจะสร้างรายได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ

ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของ MATCH แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของธุรกิจ รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 92.39 ล้านบาท ลดลง 22.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการบริการและให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ และรายได้จากการบริการและให้เช่าสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เนื่องจากช่วงโลว์ซีซั่น (ฤดูฝน) และการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศหลายกองเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีกำไรขั้นต้น 22.23 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 8.86 ล้านบาท

**โอกาสการลงทุน**

ผลประกอบการของ MATCH อาจดูไม่น่าสนใจในช่วงไตรมาส 3/2567 แต่บริษัทยังคงมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ratio ที่ 0.17 เท่า แสดงถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ ส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังมีการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนที่ติดลบ แสดงถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ การเปิดตัวสตูดิโอเสมือนจริง เป็นการลงทุนในเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจ

**ความเสี่ยง**

* ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนอาจส่งผลต่อเม็ดเงินลงทุนด้านการผลิตภาพยนตร์ในประเทศไทย
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีสูง
* ความสำเร็จของสตูดิโอเสมือนจริงขึ้นอยู่กับความต้องการของกองถ่ายภาพยนตร์

**เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทใด?**

นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสการเติบโตของบริษัทในระยะยาว เนื่องจากบริษัทยังคงลงทุนต่อยอดธุรกิจ และมีโอกาสสร้างรายได้จากการบริการสตูดิโอเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยง และโอกาสของบริษัท

**หมายเหตุ:** ข้อมูลทางการเงินที่แสดงในบทความนี้ เป็นเพียงข้อมูลที่รวบรวมจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ ควรตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข้อมูลต้นทาง ก่อนตัดสินใจลงทุน