สรุป OPPDAY หุ้น LHHOTEL
Oppday
สรุป OPPDAY
เจาะลึกผลประกอบการ LHHOTEL ปี 2568 ไตรมาส 3: โอกาสและความท้าทายในตลาดโรงแรมไทย
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):กองทรัสต์ LHHOTEL ซึ่งเป็นกอง REIT ประเภทโรงแรม มีสินทรัพย์รวม (Total Asset) ขนาดใหญ่ที่สุดในไทยที่ 23,649 ล้านบาท และมี Market Cap ใหญ่ที่สุดในไทย
ผลกระทบเชิงบวก: การท่องเที่ยวฟื้นตัว, กลยุทธ์การตลาดที่ปรับเปลี่ยน, การกระจายความเสี่ยงในทำเลที่ตั้ง (กรุงเทพฯ และพัทยา)
ผลกระทบเชิงลบ: เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น แผ่นดินไหว, การลักพาตัวนักท่องเที่ยว, และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ เดินทางมาไทยน้อยลง
ตัวเลขและสถิติ: ไตรมาส 3 ปี 2568 มี Total Asset 23,649 ล้านบาท, NAV 13,737 ล้านบาท, อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นจาก 71% (ไตรมาส 2) เป็น 78%, รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน
EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 243 ล้านบาท (ไตรมาส 2) เป็น 315 ล้านบาท (ไตรมาส 3) คิดเป็น 30% ต่อไตรมาส
ในพัทยา Occupancy Rate อยู่ที่ 81% (ไตรมาส 2) และ 85% (ไตรมาส 3), RevPar เพิ่มขึ้น 5%, EBITDA เพิ่มขึ้น 14%
ภาพรวมกองทรัสต์มี Occupancy Rate 81%, RevPar 3,772 บาท, EBITDA 542 ล้านบาท
สัดส่วนโรงแรมในกรุงเทพฯ 54%, พัทยา 46% โดย Grand Centre Point Pattaya มีสัดส่วนใหญ่สุด 31%
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):โอกาสในการลงทุนเพิ่ม: มีทรัพย์สินใน Pipeline ที่กองทรัสต์สามารถเข้าลงทุนเพิ่มเติมได้ เช่น โรงแรม Grand Centre Point สุรวงศ์, ลุมพินี, และ เพชรบุรี
- Grand Centre Point สุรวงศ์ เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2563
- Grand Centre Point ลุมพินี และ เพชรบุรี เปิดดำเนินการภายในปี 2568
กลยุทธ์: ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์, เพิ่มกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว, เข้าร่วมโครงการท่องเที่ยวต่างๆ, และปรับกลยุทธ์ด้านราคา
ตลาดใหม่/กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย: ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม US, UAE, Middle East, Singapore, และ Qatar
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):ความเสี่ยงด้านการตลาด: สถานการณ์ไม่แน่นอน เช่น แผ่นดินไหว, การลักพาตัวนักท่องเที่ยว, และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
ผลกระทบ: จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน: การมีโรงแรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในทำเลใกล้เคียง (Grand Centre Point ราชดำริ และ เพชรบุรี)
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):การแก้ไขปัญหา: ขยายกลยุทธ์การตลาด, เพิ่มกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว (US, UAE, Middle East), ปรับกลยุทธ์ด้านราคา, และเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว
แผนการดำเนินการ: วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด, ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้อง, เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน, และบริหารความเสี่ยง
ตัวชี้วัดความสำเร็จ: อัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate), รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar), และ EBITDA
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):แนวโน้ม: ไตรมาส 4 คาดการณ์ผลประกอบการจะไม่น้อยไปกว่าไตรมาส 3 และมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น
วิสัยทัศน์และเป้าหมาย: เพิ่มการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพ, บริหารจัดการต้นทุน, และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วย
เทคโนโลยีและนวัตกรรม: ปรับปรุงการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก, ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการโรงแรม, และพัฒนาแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:56]
- แผนการคืนหนี้ในไตรมาส 4 ปี 2568
- อย่างน้อย 127 ล้านบาท ตามสัญญา
- อาจพิจารณาเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการ
- แผนการ Renovate โรงแรมปี 2569-2570
- ปัจจุบันยังไม่มีแผน Major Renovation
- เน้น Maintenance เพื่อให้ทรัพย์สินพร้อมใช้งานและแข่งขันได้
- แผนการซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมปีหน้า
- พิจารณาสถานการณ์ตลาดและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ
- จะแจ้งให้ผู้ถือหน่วยทราบอีกครั้ง
- ผลกระทบจาก Grand Centre Point เพชรบุรี ต่อ ราชดำริ
- ประเมินผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
- ราคาขาย เพชรบุรี สูงกว่า ราชดำริ สะท้อนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่าง
- Room Type และ Facility แตกต่างกัน
- ทีมบริหารและระบบการขายแยกกัน ป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- เป้าหมาย RevPar ปี 2569 และการปรับ ADR (Average Daily Rate)
- คาดการณ์ RevPar เติบโตประมาณ 4%
- ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
- ต้นทุนการเช่าเพิ่มขึ้น 55% แต่รายได้ค่าเช่าลดลง 14%
- (ข้อมูลไม่ชัดเจนว่าเป็นไตรมาสใด)
- รายได้ลดลงจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและเปลี่ยนอุปกรณ์ในห้องพัก
- Outlook ไตรมาส 4 ปี 2568
- คาดผลประกอบการไม่น้อยกว่าไตรมาส 3
- มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- แผนรับมือการเปลี่ยนแปลงของนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย
- จัดแคมเปญและขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น
- เพิ่มกลุ่มลูกค้าจากตะวันออกกลาง อเมริกา รัสเซีย
- การต่อสัญญาเช่า ราชดำริ ที่ 276 ล้านบาทต่อปี ดีกว่าเดิมหรือไม่
- ค่าเช่าคงที่ 276 ล้านบาท
- ค่าเช่าแปรผันปรับเพิ่มเป็น 90%
- หากสถานการณ์ปกติ Total Rent จะดีขึ้นกว่าเดิม
- Outlook นักท่องเที่ยวต่างชาติปีหน้า
- ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยสนับสนุน
- มีปัจจัยบวกจากการจัดงาน C Game และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว
- แผนการปรับตัวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง
- จัดแคมเปญและขยายตลาด
- เพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและอเมริกา
- LHHOTEL เข้าร่วมโครงการ "เที่ยวดีมีคืน" หรือไม่
- เข้าร่วมโครงการและออกใบกำกับภาษีได้
- Fund Flow จาก ESG Fund
- ส่วนใหญ่มาจากสถาบันและรายย่อย
- การทำประกัน Business Interruption
- ทำประกันไว้ มูลค่าประมาณ 2 ปีของรายได้สุทธิ
หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป
- แผนการคืนหนี้ - ขั้นต่ำและโอกาสเพิ่ม
- Renovate โรงแรม - เน้นบำรุงรักษา, ยังไม่มีแผน
- ซื้อทรัพย์สินเพิ่ม - รอจังหวะ, ดูผลตอบแทน
- ผลกระทบ GCP เพชรบุรี - กลุ่มลูกค้าต่างกัน
- RevPar ปีหน้า - คาดโต 4%, อิงปัจจัยภายนอก
- ต้นทุนเช่าสูง - รายได้ลด, บำรุงรักษาสม่ำเสมอ
- Outlook Q4 - ไม่ต่ำกว่า Q3, โอกาสดีขึ้น
- รับมือทัวร์เอเชียเปลี่ยน - ขยายตลาด, เจาะกลุ่มใหม่
- สัญญาเช่าราชดำริ - คงที่+แปรผัน, ระยะยาวดีขึ้น
- Outlook ทัวร์ต่างชาติ - อิงสถานการณ์, มีปัจจัยหนุน
- ESG Fund Flow - สถาบัน+รายย่อย
- ประกันธุรกิจ - คุ้มครอง 2 ปีรายได้
โดยสรุป, LHHOTEL เผชิญทั้งความท้าทายและโอกาสในปี 2568. การปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็วและการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหน่วย.