KYE
บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท กันยงอีเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ KYE รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2566 โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 1,780 ล้านบาท ลดลง 21.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายลดลงในทุกผลิตภัณฑ์และหลายตลาดหลัก โดยสาเหตุมาจากสถานการณ์ Demand ในทุกตลาดลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ รายได้ยังลดลง 15.1% จากไตรมาสที่ 1/2566 โดยยอดขายลดลงจากการขายตู้เย็นและพัดลมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการลดลงจากมูลค่าของวัตถุดิบที่ลดลง แต่กำไรขั้นต้นลดลง -29.8% จากไตรมาสที่ 1/2566 กำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 198 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 99 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการส่งออกที่ลดลง 62 ล้านบาท รวมถึงมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 21 ล้านบาท นอกจากนี้ กำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้น 167 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 1/2566 เนื่องจากเงินปันผลรับเพิ่มขึ้น 246 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 20 ล้านบาท

ในส่วนของแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของตลาด รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ คาดว่ายอดขายในปี 2566 จะอยู่ที่ระดับ 7,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

โดยพิจารณาจากผลประกอบการและฐานะทางการเงินล่าสุด รวมถึงข้อมูลย้อนหลัง บริษัท KYE น่าจะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของกำไรสุทธิและกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้จะลดลงบ้าง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ อัตราส่วนทางการเงินที่น่าสนใจ ได้แก่ P/E ที่ 9.13 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด P/BV ที่ 0.72 ซึ่งบ่งบอกว่าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท และ YIELD ที่ 8.78% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด บ่งบอกถึงศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาถึงความเสี่ยงของการลงทุนใน KYE ดังนี้
* ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์: ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก
* การแข่งขันที่รุนแรง: บริษัทฯ ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
* สภาวะเศรษฐกิจโลก: สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าของบริษัทฯ

โดยสรุปแล้ว KYE ถือเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มองหาบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง กำไรเติบโต และมีโอกาสในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต แต่ทั้งนี้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน


รายได้รวม
0.00 ล้านบาท
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
0.00 ล้านบาท
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
0.00 ล้านบาท
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
0.00 ล้านบาท
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
0.00 ล้านบาท
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ไตรมาสก่อนหน้า
0.00ล้านบาท
(0.00%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล