สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ อยู่ที่ 207 ล้านบาท ลดลง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 สาเหตุหลักมาจากรายได้รวมลดลง 8% จากการลดลงของรายได้ค่านายหน้า รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และกำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน ในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุน และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงิน พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 7% จากการลดลงของค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

KGI มีอัตราส่วนแสดงความสามารถในการหากำไรอยู่ในเกณฑ์ดีในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 21.51% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 9.94% และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 19.59% อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน เนื่องจากกำไรสุทธิที่ลดลงซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากมูลค่าการซื้อขายของตลาดโดยรวม ทั้งตลาด SET และ TFEX และสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยกับการลงทุน

KGI มีความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ 4.11% และอัตราการหมุนของสินทรัพย์ 19.87% บริษัทยังมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอต่อการจ่ายภาระหนี้สิน โดยมีอัตราความสามารถในการชำระดอกเบี้ย 8.65 เท่า และอัตราความสามารถในการชำระภาระผูกพัน 0.35 เท่า โครงสร้างเงินทุนของบริษัทเหมาะสม โดยมีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 1.21 เท่า เมื่อเทียบกับ 1.62 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งลดลงเนื่องจากหนี้สินรวมลดลง สาเหตุหลักมาจากเจ้าหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง

KGI มีแผนธุรกิจในอนาคตมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า KGI คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการขยายตัวของตลาดหลักทรัพย์

สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่า พร้อมกับการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ KGI อาจเป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึกของบริษัท รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ก่อนตัดสินใจลงทุน