สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้รวม 4,246.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 6.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 635.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.22% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 68.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการที่เติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาสนี้เกิดจากรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการขายโรงงานเก่าในนิคมอุตสาหกรรมบางปู รวมถึงผลกระทบทางบวกของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการควบคุมต้นทุนที่เข้มงวด บริษัทฯ ยังมีคําสั่งซื้อรอผลิตเฟื่อส่งขาย ประมาณ 5.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีสินค้าจํานวน 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่รอการคนุมัติการจัดส่งจากลูกค้าซึงจะเป็นรายได้ในไตรมาส 3/67

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ของ KCE ในอนาคตเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตสินค้าเกรดพิเศษ (900) ให้มากขึ้น บริษัทฯ ยังมีแผนลดต้นทุนการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น KCE ตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

KCE มีแผนการลงทุนในปี 2567 ประมาณ 780 ล้านบาท (ไม่รวม โครงการโรจนะ) โดยแบ่งเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานที่ลาดกระบัง 493 ล้านบาท โรงงานไฮเทค อยุธยา 105 ล้านบาท และโรงงานไทยลามิเนต 182 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2567 บริษัทฯ ได้ลงทุนไปแล้ว 204.4 ล้านบาท นอกจากนี้ KCE ยังมีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ โดยประมาณการว่าจะลงทุนในปี 2567-2569 รวม 6,960 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2567 บริษัทฯ ได้ลงทุนไปแล้ว 43.9 ล้านบาท สำหรับการออกแบบและเตรียมพื้นที่

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังสะท้อนให้เห็นว่า KCE เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้เติบโตสม่ำเสมอ อัตรากำไรสุทธิ (15.8% ในไตรมาส 2/67) ยังคงอยู่ในระดับที่สูง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (0.08 เท่า ในไตรมาส 2/67) ต่ำกว่า 1 แสดงให้เห็นว่าพื้นฐานทางการเงินแข็งแกร่ง KCE มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในระดับที่สูง (4,213.82 ล้านบาท ในปี 2566) และเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนเป็นลบ (407.91 ล้านบาท ในปี 2566) สะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ P/E ล่าสุด (24.24) และ P/BV (3.22) ยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม YIELD (3.35) ต่ำกว่า 4% อาจไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล การลงทุนใน KCE เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของธุรกิจ โดยบริษัทฯ มีโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความต้องการแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก

**โอกาส:**

* ตลาด PCB เติบโตอย่างต่อเนื่อง
* ความต้องการ PCB เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น 5G และ Internet of Things (IoT) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
* บริษัทฯ มีแผนลดต้นทุนการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น
* บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน
* บริษัทฯ มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
* โอกาสในการขยายธุรกิจผ่านโรงงานใหม่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ

**ความเสี่ยง:**

* ความผันผวนของราคาทองแดง
* การแข่งขันในอุตสาหกรรม PCB ที่สูง
* ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
* ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
* ความเสี่ยงในการก่อสร้างและดำเนินงานโรงงานใหม่
* ความเสี่ยงในการปรับปรุงกระบวนการผลิต