สรุปงบล่าสุด KCAR

บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
KCAR เผชิญความท้าทายในปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิลดลง 50.1% เหลือ 96.1 ล้านบาท จากตลาดรถมือสองที่ไม่เอื้ออำนวย แม้รายได้ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการขายรถลดลง และต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น
ตลาดรถยนต์มือสองได้รับผลกระทบจากรถยึดที่เพิ่มขึ้น, ความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และการแข่งขันจากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ราคาถูกลง บริษัทต้องบริหารความเสี่ยง, ปรับกลยุทธ์, ควบคุมต้นทุน และบริหารสินทรัพย์
IAA เคยให้ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท (อัพเดต 2023) โดยมี Yield 8.15% (ปี 2567), และ P/E 11.59 เท่า KCAR เน้นบริหารจัดการต้นทุน, พร้อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการ KCAR และแนวโน้ม
KCAR รายงานกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 96.1 ล้านบาท ลดลง 50.1% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายรถลดลง 16.5% แม้รายได้ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้น 4.1% ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 24.5% ตามการจัดหาเงินทุนสำหรับรถเช่าที่มากขึ้น ประกอบกับราคาขายรถมือสองที่ลดลง
บริษัทมีแผนธุรกิจมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาระบบ Paperless ภายในองค์กร เพื่อลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตั้งเป้ารายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน
KCAR มี P/E ที่ 10.51 และ P/BV ที่ 0.43 สะท้อนมูลค่าที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ แต่ผลประกอบการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญอาจเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
(2.62%)
(9.72%)
(8.50%)
(5.10%)
(10.87%)
(4.26%)
(10.12%)
(6.33%)
(6.75%)
(6.55%)
(34.12%)
(230.04%)