JMT
บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)

สรุปงบการเงิน

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุปสั้น

ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล


ผู้เขียน

สรุปด้วย AI(O) BOT

## สรุปผลประกอบการของ หุ้น JMT บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ไตรมาส 3/2568

**สรุปสั้น:**
ในไตรมาส 3/2568 JMT มีรายได้รวม 1,174.9 ล้านบาท ลดลง 12.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 231.3 ล้านบาท ลดลง 46.2% จากปีก่อนหน้า การลดลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพที่ลดลงและรายได้จากการรับประกันภัยที่ลดลง แม้ว่าบริษัทจะยังคงรักษาระดับการจัดเก็บกระแสเงินสดได้ แต่ก็มีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) เพิ่มขึ้นเนื่องจากผลการจัดเก็บหนี้ต่ำกว่าประมาณการณ์จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (หน้า 2)

**เศรษฐกิจ:**
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี แต่เริ่มชะลอตัวในไตรมาส 3 ตามภาวะเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแรง ภาระหนี้ครัวเรือนยังคงเป็นปัจจัยกดดันการบริโภค แม้ว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง คุณภาพสินทรัพย์ของระบบธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ แต่ NPLs ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ภาครัฐยังคงมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพื่อประคองเศรษฐกิจ (หน้า 3)

**การเปลี่ยนแปลงของกำไร:**
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นสำหรับไตรมาส 3/2568 ลดลง 46.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้รวม 12.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดเก็บหนี้ที่ลดลงและรายได้จากการรับประกันภัยที่ลดลง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ก็มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิเช่นกัน (หน้า 5)

**สินเชื่อและสัดส่วน:**
บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2567 โดยมีเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ที่คาดว่าจะได้รับชำระเกินกว่าหนึ่งปีคิดเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของสินทรัพย์รวม แม้ว่าสินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้จะลดลง แต่บริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ (หน้า 7)

**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสการลงทุน:**
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญคือสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและระดับหนี้สินครัวเรือนที่สูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม JMT มีโอกาสในการเติบโตจากการทยอยจำหน่ายพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงิน และความพร้อมในการร่วมมือกับภาครัฐในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ (หน้า 9)

**สรุปสั้นท้ายสุด:**
รายได้และกำไรของ JMT ในไตรมาส 3/2568 ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการจัดเก็บหนี้และการตั้งสำรอง ECL ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ ลดต้นทุน และรักษากระแสเงินสด นอกจากนี้ JMT ยังมีโอกาสในการเติบโตจากการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินและการร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย บริษัทมีความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงและพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น (หน้า 4, 9)


รายได้รวม
1,174.91 ล้านบาท
33.74ล้านบาท
(2.79%)
ไตรมาสก่อนหน้า
110.31ล้านบาท
(8.58%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรขั้นต้น
770.27 ล้านบาท
1.49ล้านบาท
(0.19%)
ไตรมาสก่อนหน้า
41.92ล้านบาท
(5.16%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรขั้นต้น(%)
65.56 ล้านบาท
1.71ล้านบาท
(2.68%)
ไตรมาสก่อนหน้า
2.37ล้านบาท
(3.75%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
ค่าใช้จ่ายรวม
184.93 ล้านบาท
12.67ล้านบาท
(6.41%)
ไตรมาสก่อนหน้า
29.60ล้านบาท
(13.80%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตราค่าใช้จ่าย(%)
15.74 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กำไรสุทธิ
231.34 ล้านบาท
15.13ล้านบาท
(6.14%)
ไตรมาสก่อนหน้า
198.57ล้านบาท
(46.19%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
อัตรากำไรสุทธิ(%)
19.69 %
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
D/E
0.49 เท่า
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
กระแสเงินสด
453.75 ล้านบาท
2,162.20ล้านบาท
(82.65%)
ไตรมาสก่อนหน้า
601.34ล้านบาท
(56.99%)
ช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล