สรุปงบล่าสุด JMART
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ไตรมาส 3/2568**
**1. สรุปรายได้รวม:**
ในไตรมาส 3/2568 JMART มีรายได้รวม 3,894.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 82.5 ล้านบาท ลดลง 67.7% จากปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ แต่ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จัดเก็บหนี้ได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ต้องตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) เพิ่มขึ้น รวมถึงผลขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (หน้า 3, 5, 8)
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัว แต่ภาระหนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้สถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ ธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์มือถือยังคงเติบโตได้ดีจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมาร์ทโฟนที่รองรับ AI และความต้องการอุปกรณ์เสริมคุณภาพสูง (หน้า 2)
JMART มีการลงทุนในบริษัทร่วม เช่น บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) ซึ่งมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานโดยเน้นการปล่อยสินเชื่อด้วยเทคโนโลยีที่รัดกุมมากขึ้น (หน้า 4)
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า:** เพิ่มขึ้น 23.4% ในไตรมาส 3/2568 จากการเติบโตของยอดขายในธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือของเจมาร์ท โมบาย (หน้า 6)
* **รายได้ดอกเบี้ยจากเงินซื้อลูกหนี้และกำไรจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้:** ลดลง 7.4% ในไตรมาส 3/2568 เนื่องจากการจัดเก็บหนี้จากพอร์ตลูกหนี้ด้อยคุณภาพลดลง (หน้า 6-7)
* **รายได้ค่าเช่า:** เพิ่มขึ้น 13.2% ในไตรมาส 3/2568 จากการเปิดศูนย์การค้า JAS Green Village ประเวศ และรามคำแหง (หน้า 7)
* **รายได้จากการรับประกันภัย:** ลดลง 38.3% ในไตรมาส 3/2568 เนื่องจากเจมาร์ทประกันภัยเน้นให้บริการประกันภัยในกลุ่มที่มี Loss Ratio ต่ำลง (หน้า 7)
* **กำไรขั้นต้น:** เพิ่มขึ้น 5.3% ในไตรมาส 3/2568 จากการเติบโตของธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือและรายได้ค่าเช่า (หน้า 7)
* **ขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน:** เกิดขึ้นเนื่องจากการลดลงของมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์ตามระยะเวลาสัญญาเช่า (หน้า 7)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** เพิ่มขึ้น 18.3% ในไตรมาส 3/2568 หลักๆ มาจากผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ที่เพิ่มขึ้นใน JMT (หน้า 7)
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม:** ลดลง 24% ในไตรมาส 3/2568 จากส่วนแบ่งขาดทุนจากการปรับปรุงรายการรายได้จากการสนับสนุนแบรนด์ของ SINGER (หน้า 7-8)
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 มีสินทรัพย์รวม 61,935.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากสิ้นปี 2567 หลักๆ มาจากเงินสดที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ของ JMT (หน้า 9)
* **หนี้สินรวม:** ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 มีหนี้สินรวม 28,310.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% จากสิ้นปี 2567 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกู้สุทธิ (หน้า 9)
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** เพิ่มขึ้นจาก 0.76 เท่าในไตรมาส 3/2567 เป็น 0.84 เท่าในไตรมาส 3/2568 (หน้า 8)
**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**
* **การลงทุนใน Suki Teenoi:** JMART รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 30% ใน Suki Teenoi จำนวน 241 ล้านบาท (ก่อนหักการปันส่วนราคาซื้อ) (หน้า 4)
* **การขายหุ้น PRTR:** JMART ขายหุ้นใน PRTR จำนวน 14.99% โดยบันทึกเงินลงทุนภายใต้ FVOCI ซึ่งไม่กระทบต่อผลกำไรขาดทุนของบริษัท (หน้า 5)
* **การบริหารความเสี่ยง:** JMART มุ่งเน้นการสร้างรายได้ภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะโครงการสินเชื่อมือถือภายใต้ความร่วมมือกับ Samsung Finance+ และ SG Finance+ (หน้า 10-11)
* **การลดต้นทุน:** JMART ดำเนินนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด และปรับลดจำนวนสาขาที่ไม่ก่อให้เกิดกำไร (หน้า 11)
* **การรักษากระแสเงินสด:** JMART ให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างเคร่งครัด และวางแผนการชำระหนี้อย่างเป็นระบบ (หน้า 11)
* **ความยั่งยืน:** JMART มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจบนเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (หน้า 11-12)
(1.94%)
(13.58%)
(2.90%)
(4.48%)
(0.95%)
(8.02%)
(2.39%)
(16.97%)
(25.60%)
(67.66%)
(32.14%)
(10.67%)