สรุปงบล่าสุด JMART

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
JMART ปี 67 กำไรสุทธิพุ่ง 355.2% เป็น 1,140.8 ล้านบาท แม้รายได้รวมโตเพียง 1.0% จากการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก (สินเชื่อ, ค่าเช่า) แม้รายได้ประกันภัยลดลงและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนลดลง JMART วางกลยุทธ์เน้น ESG, AI Phone, ร่วมมือกับบริษัทในกลุ่ม, และนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ
ASPS คาดการณ์กำไร Q1/68 ชะลอตัว QoQ แต่ยังโต YoY. ธุรกิจหลักส่วนใหญ่กำไรลดลง. กำไรพุ่งหนุนโดยรายได้ภาษี.
JMART PE 12.06 ,Yield 2.55% IAA ให้ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท และคงคำแนะนำ Outperform
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ JMART: เจาะลึกรายได้ กำไร และกลยุทธ์การเติบโต (ปี 2567) - ฉบับปรับปรุง
บทความนี้สรุปผลประกอบการของ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) สำหรับปี 2567 โดยอ้างอิงจาก "คำอธิบายและการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของฝ่ายจัดการ" ฉบับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งนำเสนอภาพรวมของรายได้ กำไร สินทรัพย์ หนี้สิน และปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท
**1. สรุปรายได้รวมและกำไรสุทธิ:**
JMART มีรายได้รวมในปี 2567 อยู่ที่ 13,878.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 1,965.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.1% และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,140.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 355.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวและกลับมาเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัท
**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**
แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในปี 2567 จะเติบโตในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ (2.6%) และมีปัจจัยท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่ JMART ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความต้องการในการบริโภคอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยสินเชื่อภายใต้โครงการ "0% Phone" ที่ใช้เทคโนโลยีในการสร้างวินัยทางการเงินให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสินค้ามือถืออย่างแท้จริง
**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**
* **รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า:** 8,922.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.6%
* **รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและการซื้อหนี้:** 4,351.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เป็นผลจากการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น
* **รายได้ค่าเช่า:** 377.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากการเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่
* **รายได้จากการรับประกันภัย:** 227.2 ล้านบาท ลดลง 28.2% เนื่องจากการพิจารณารับประกันภัยที่ระมัดระวังมากขึ้นเพื่อควบคุม Loss Ratio
* **กำไรขั้นต้น:** 4,487.3 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.6%
* **กำไร (ขาดทุน) จากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน:** เพิ่มขึ้น 2.9%
* **กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น:** ขาดทุนลดลงอย่างมาก (-95.4%)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** 3,071.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจ ค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า:** 463.6 ล้านบาท ลดลง 11.1% เป็นผลจากการจัดเก็บหนี้ที่ลดลงของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด
* **ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม:** 306.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148.6% เนื่องจากไม่มีผลขาดทุนจาก Singer เหมือนปีก่อน
**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** 59,953.4 ล้านบาท ลดลง 3.7% จากสิ้นปี 2566 เนื่องจากการชำระหนี้หุ้นกู้และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
* เงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ที่คาดว่าจะได้รับชำระเกินกว่าหนึ่งปี: 20,331.1 ล้านบาท (33.9% ของสินทรัพย์รวม) ลดลง 6.8%
* เงินลงทุนในการร่วมค้า: 6,086.9 ล้านบาท (10.2% ของสินทรัพย์รวม) ลดลง 2.1%
* เงินลงทุนในบริษัทร่วม: 5,940.9 ล้านบาท (9.9% ของสินทรัพย์รวม) เพิ่มขึ้น 4.7%
* อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน: 5,891.7 ล้านบาท (9.8% ของสินทรัพย์รวม) เพิ่มขึ้น 8.8%
* **หนี้สินรวม:** 25,838.7 ล้านบาท ลดลง 12.4% เนื่องจากการจ่ายชำระหนี้หุ้นกู้
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** 34,114.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (Interest Bearing Debt to Equity Ratio):** ระบุว่าบริษัทคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและปฏิบัติตามเงื่อนไขหุ้นกู้เสมอมา แต่ไม่มีตัวเลขอัตราส่วนที่ชัดเจน
**5. การเปลี่ยนแปลงในกระแสเงินสด:**
* **กระแสเงินสดสุทธิลดลง:** 624.3 ล้านบาท
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน:** 3,327.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเนื่องจากการซื้อลูกหนี้มาบริหารลดลง
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน:** 1,139.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเงินสดรับจากการรับชำระหนี้เงินให้กู้ยืม และได้รับเงินปันผลมากขึ้น
* **กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน:** 6,091.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในการจ่ายชำระหนี้หุ้นกู้
**6. ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน:**
* **ความเสี่ยง:** สภาวะการแข่งขันที่สูง สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่กำลังซื้อยังมีการชะลอตัว หนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
* **โอกาส:** การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปสู่ AI Phone การร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มในการผลักดันยอดขายผ่านสินเชื่อมือถือ (Locked Phone - SGC Finance+) นโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ การเติบโตจากการเป็น Financial Enabler ให้กับผู้บริโภคที่ต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือ
**7. การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (ESG):**
JMART ให้ความสำคัญกับการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ (เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม) โดยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในด้าน ESG
* **สิ่งแวดล้อม:** ได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจก (T-VER), เข้าร่วมโครงการ SBT, ติดตั้งแผง Solar Cell ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, มุ่งมั่นลดผลกระทบต่อธรรมชาติและจัดการของเสียอย่างยั่งยืน
* **สังคม:** บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน พัฒนาทักษะพนักงาน (In-House Training, Public Training, e-Learning), สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับชุมชน
* **บรรษัทภิบาล:** เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC), ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG) ในระดับ "ดีมาก"
**8. สรุป:**
JMART ประสบความสำเร็จในการฟื้นตัวและเติบโตในปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความต้องการในการบริโภคอย่างระมัดระวัง และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ การลงทุนในบริษัทร่วมต่างๆ และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) ยังมีส่วนช่วยในการสร้างผลกำไรและความน่าเชื่อถือให้กับ JMART
**โดยสรุปแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำไรของ JMART ในปี 2567 คือ:**
* การฟื้นตัวของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารหนี้และการให้สินเชื่อ
* การเติบโตของรายได้ค่าเช่าจากคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่
* การเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (บางบริษัท)
* การจัดการความเสี่ยงในการรับประกันภัย
* การรักษาการเติบโตและเป้าหมายทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
JMART ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความสามารถในการทำกำไรและการเติบโตในอนาคต โดยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG
**หมายเหตุ:** บทสรุปนี้อ้างอิงจากข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น หากมีข้อมูลเพิ่มเติม อาจมีการเปลี่ยนแปลงในข้อสรุปได้
(4.80%)
(0.59%)
(3.52%)
(8.04%)
(1.25%)
(8.60%)
(3.61%)
(4.84%)
(21.46%)
(86.78%)
(5.64%)
(112.01%)