สรุปงบล่าสุด JAK

บริษัท จักรไพศาล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท จักรไพศาล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (JAK)
บริษัท จักรไพศาล เอสเตท จำกัด (มหาชน) (JAK) สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2567 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายประการ เริ่มจากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่ "ไพน์ คอนโด" ในไตรมาส 4/2567 หลังจากเปิดตัวในไตรมาส 4/2566 และการปิดโครงการ "การ์ติเนีย พัทยา" ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าซื้อที่ดินในจังหวัดชลบุรีเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2568 โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างต้นปีและรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/2568 ภาพรวมรายได้จากการขายในปี 2567 อยู่ที่ 263.92 ล้านบาท ลดลง 5.44% เมื่อเทียบกับปี 2566 สาเหตุหลักมาจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อลดลง และการปิดโครงการการ์ติเนีย พัทยา ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 46.57% เหลือ 16.97 ล้านบาท เนื่องจากรายได้และกำไรขั้นต้นลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการและต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการปรับปรุงมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นสินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียนอื่น ทำให้มีกำไรจากการจัดประเภทเงินลงทุน 26.81 ล้านบาทในงบเฉพาะกิจการ สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 3.03% เป็น 804.24 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 5.83% เป็น 455.82 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการใหม่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการใหม่นี้ในไตรมาส 3/2568 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร แม้ว่าจะไม่มีการระบุเป้าหมายรายได้หรือยอดขายที่ชัดเจน แต่การเข้าซื้อที่ดินและการพัฒนาโครงการใหม่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการจ่ายเงินปันผลเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 จำนวน 16 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินและความใส่ใจต่อผู้ถือหุ้น
จากข้อมูลผลประกอบการและข้อมูลราคาหุ้นในอดีต การลงทุนในหุ้น JAK ถือว่ามีความน่าสนใจในระดับหนึ่ง โดยพิจารณาจากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ เช่น P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.92 ซึ่งต่ำกว่า 1 บ่งบอกว่าราคาหุ้นอาจยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี นอกจากนี้ อัตราเงินปันผลตอบแทน (YIELD) ล่าสุดอยู่ที่ 3.85% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้จากเงินปันผล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบ เช่น สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สูง และความผันผวนของราคาหุ้น
* **โอกาส:**
* การพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ
* อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจ
* **ความเสี่ยง:**
* สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน
* การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สูง
**ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการวิเคราะห์:**
* **ลักษณะธุรกิจ:** พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
* **D/E:** 0.86 (แสดงถึงการใช้ประโยชน์จากหนี้สินในระดับที่เหมาะสม)
* **วงจรเงินสด:** มีความผันผวน แต่มีแนวโน้มลดลง
* **P/E:** ล่าสุดอยู่ที่ 26.05 (บ่งบอกถึงราคาหุ้นเมื่อเทียบกับกำไร)
***
**ความสัมพันธ์และวิเคราะห์เพิ่มเติม:**
* **รายได้และกำไร:** แม้ว่ารายได้จะลดลงเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นถึงปัญหาในการบริหารจัดการต้นทุนหรือการเปลี่ยนแปลงในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ที่มีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น
* **อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ:** อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิลดลงอย่างมาก บ่งชี้ว่าบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหรือต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
* **D/E:** อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นคงที่ แสดงถึงความสม่ำเสมอในการบริหารจัดการหนี้สิน
* **ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อกำไร:** การปิดโครงการการ์ติเนีย พัทยา ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง มีผลกระทบต่อกำไรโดยรวม การพัฒนาโครงการใหม่ในจังหวัดชลบุรีจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
***
**พัฒนาการสำคัญ:** การเข้าซื้อที่ดินในจังหวัดชลบุรีเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญและเป็นสัญญาณบวกต่อการเติบโตในอนาคต
**อนาคตการลงทุน:** การลงทุนในหุ้น JAK มีความเสี่ยงและโอกาสที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการใหม่ในจังหวัดชลบุรี แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าว และความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทฯ
**หมายเหตุ:** บทวิเคราะห์นี้เป็นการพรรณาตามข้อมูลที่ให้มาเท่านั้น ไม่ได้เป็นการแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
(44.60%)
(4.38%)
(30.11%)
(4.24%)
(10.01%)
(0.16%)
(1.73%)
(19.78%)
(143.61%)
(10.86%)
(333.62%)
(1.29%)