สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (JAS) ผลประกอบการไตรมาส 2/2567: บวกจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่

บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (JAS) มีผลประกอบการไตรมาส 2/2567 ที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิ 134.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151.4 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการเปิดศูนย์การค้า Jas Green Village ประเวศ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 140.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีรายได้จากการขายและบริการรวม 297.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบตลาดชุมชน (J Market) และศูนย์การค้าชุมชน (The Jas) โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 7 แห่ง ในปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่เพิ่มเติมอีก 1 แห่ง ในทําเล ย่านรามคําแหง ในไตรมาส 3/2567 เพื่อขยายช่องทางสร้างรายได้และฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแผนธุรกิจที่ชัดเจน บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในบริษัทฯ อาจมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค และความผันผวนของเศรษฐกิจ


## วิเคราะห์โอกาสการลงทุน

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุด บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดย P/E ของบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 11.19 ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ P/BV อยู่ที่ 0.54 สะท้อนถึงความคุ้มค่าในการลงทุนโดยเทียบกับมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์ นอกจากนี้ D/E ของบริษัทฯ อยู่ที่ 0.75 ซึ่งถือว่าต่ำกว่า 1 แสดงถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และบริษัทฯ มีศักยภาพในการกู้ยืมเงินเพื่อขยายธุรกิจได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มี YIELD 0% ซึ่งถือว่าไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล วงจรเงินสดของบริษัทฯ อยู่ที่ 39.98 แม้ว่าจะไม่ติดลบ แต่ก็แสดงถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสดที่ยังไม่สูงมาก นอกจากนี้ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนของบริษัทฯ ติดลบ 922.983281 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ใช้งบประมาณในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดยสรุป บริษัทฯ เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต และมีความคุ้มค่าในการลงทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือยาวรอการเติบโต โดยเน้นการเติบโตของกำไรและมูลค่าของบริษัทฯ แต่ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล