สรุป OPPDAY หุ้น ITEL

ITEL
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
สรุป Oppday Interlink Telecom ไตรมาส 4/2567: เจาะลึกกลยุทธ์และทิศทางปี 2568
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):Interlink Telecom เผชิญผลกระทบทั้งบวกและลบในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบดังนี้:
- รายได้: ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ลดลงเล็กน้อยประมาณ 48 ล้านบาท
- การเติบโตของ Data Service: มีวงจรใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 วงจร และลูกค้าเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ราย
- Data Center: ยังคงให้บริการเต็มที่
- งานติดตั้ง: ยังคงมีกลุ่มลูกค้าเดิม เช่น AWS และงานต่อเนื่อง เช่น e-budgeting และการติดตั้ง Solar Cell
- กำไร: เติบโตกว่าปีที่แล้วในภาพรวม โดยมีกำไรพิเศษ 177 ล้านบาท จากการซื้อกิจการ GLS (IHT), การขายหุ้น Ethics ITEL และการ Reverse ส่วนแบ่งขาดทุน
- Recurring Business: ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากงานคอร์สออนไลน์และ USO 1 ที่หมดอายุ
- Non-Recurring Business: งานโครงการภาครัฐออกมาค่อนข้างน้อย ทำให้รายได้ส่วนนี้ลดลง
โดยรวมแล้ว ธุรกิจยังคงเติบโตได้ดี แต่มีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงและแก้ไข
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน และมีกลยุทธ์ในการคว้าโอกาสเหล่านั้นดังนี้:
- โครงการภาครัฐ: มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับสำนักงบประมาณในเรื่องระบบงบประมาณ และเตรียมตัวในเรื่อง Cloud Infrastructure
- Augmented Reality (AR): ร่วมมือกับกระทรวง อว. ในการปรับปรุงและเสริมสร้างวิธีการเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ ให้กับประชาชนและนักเรียนนักศึกษา
- Data Center: ดูแลและปรับปรุง Data Center ภายใต้สำนักนายกฯ (สนร.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมและแลกเปลี่ยนข้อมูล
- กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.): มีความตั้งใจที่จะเป็นรายแรกที่ใช้ Serverless อย่างแท้จริง โดยบริษัทจะเข้าไปช่วยในเรื่องระบบ Security และ Knox Lock
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และพัฒนาบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):บริษัทเผชิญความเสี่ยงและความท้าทายหลายด้าน:
- การแข่งขัน: การแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมที่สูงขึ้น
- ความไม่แน่นอนทางการเมือง: ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่องานโครงการภาครัฐ
- การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี: การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็วอาจทำให้ต้องปรับตัวอยู่เสมอ
- หนี้สงสัยจะสูญ: ความเสี่ยงในการเก็บเงินจากลูกค้าที่ล่าช้า
บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ และมีแผนการรับมือที่เหมาะสม
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):บริษัทมีวิธีการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบดังนี้:
- การปรับปรุงประสิทธิภาพ: ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดต้นทุน
- การบริหารความเสี่ยง: บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และมีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉิน
- การพัฒนาบุคลากร: พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัย
- การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ: ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบจากการเก็บเงินที่ล่าช้า
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):บริษัทมองเห็นแนวโน้มของธุรกิจในอนาคตดังนี้:
- การเติบโตของ Data Center: ความต้องการ Data Center ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- การขยายตัวของ 5G: การขยายตัวของ 5G จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการให้บริการ
- การเติบโตของ Cloud Computing: การเติบโตของ Cloud Computing จะทำให้บริษัทต้องปรับตัวและพัฒนาบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
- การมาของ Hyper Scaler: บริษัทคาดว่าการมาของ Hyper Scaler จะสร้างโอกาสให้บริษัทในการให้บริการเชื่อมต่อและ Cloud Implementation
บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และมีแผนการเติบโตที่ชัดเจนในระยะยาว
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:18:38] - GLS ขาดทุนที่ Gross Level ในไตรมาส 4 เพราะอะไร: มีการกลับรายการบางอย่าง การขายให้ตัวแทนที่ไปขายต่อให้หลวง การเก็บเงินล่าช้า ออดิเตอร์ให้ตั้งสำรอง - กำไรขาย Data Center หลังเสียภาษีแล้วคือเท่าไหร่: 123 ล้านบาท - Data Service ทั้งๆ ที่เป็น Recurring แต่ GP ลดลง: การหมดสัญญาของ USO ทำให้รายได้ส่วนนั้นหายไป - จะดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนต่อไหม อย่างไร: ดำเนินการตามมติ แต่จังหวะและปริมาณขึ้นกับสภาวะตลาด ไม่ได้ทำราคา แต่ซื้อเมื่ออยู่ในจุดที่เหมาะสม - ดอกเบี้ยระยะสั้น จ่ายที่เรทเท่าไร ทำไมต้องมีดอกเบี้ยระยะสั้น: เรท 4-5% เหตุผลที่ต้องมีดอกเบี้ยระยะสั้นเพราะเราคิดว่าการดำเนินงานหรือว่าการไฟแนนซ์ของโปรเจคเนี่ยเราควรจะต้องใช้โปรเจคไฟแนนซิ่งเรามีการหารือกับแบงค์ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรของเราเกือบทุกแบงค์เนี่ยว่าทุกๆ โครงการที่ได้เข้ามาเนี่ยแบงค์ไหนที่เป็นผู้ชนะก็จะดำเนินการในในการออกโปรเจคไฟแนนซิ่งให้ในโปรเจคนั้นๆ - TikTok ประกาศลงทุนในไทย กระทบ Interlink อย่างไร: จำนวนลิงก์หรือจำนวนการเชื่อมต่อจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ใช่ 1 ต่อ 1 - ผลประกอบการไตรมาส 1 มีอะไรเป็นปัจจัยตัวหนุน: สัญญาล่วงหน้าที่มีกับลูกค้ามาโดยตลอด งานที่เซ็นสัญญาช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน - ปี 2024 รายได้พลาดเป้าจากโครงการอะไร: USO หมดสัญญา แต่คาดว่าจะกลับมารับรู้รายได้ในไตรมาส 2 - ปี 2024 บริษัทมีกำไร 303 ล้านบาท ปีนี้จะรักษาได้ไหม: ตั้งใจจะเห็นบริษัทเติบโตต่อเนื่อง และพยายามทำให้รายได้กับกำไรสอดคล้องกัน - ปัจจุบันมี Backlog เท่าไหร่ จะรับรู้เท่าไหร่: 1,921 ล้านบาท ณ สิ้นปี รับรู้รายได้ 1,479 ล้านบาท - บริษัทวางงบลงทุนเท่าไหร่ ใช้ลงทุนอะไรบ้าง: 2-300 ล้านบาทต่อปี ลงทุนในส่วนของ Last Mile Data Center และปรับปรุงระบบ - สัดส่วนรายได้ Recurring เทียบกับ Non-Recurring ปัจจุบันมีเท่าไหร่ ปีนี้ตั้งเป้าเป็นอย่างไร: ปัจจุบัน 46/55 ตั้งเป้าปี 2025 เป็น 60/40 - USO 3 จะเริ่มรับรู้รายได้เมื่อไหร่ มี Impact ต่อ Data Service อย่างไร: คาดว่าจะผูกพันในสัญญาได้ในไตรมาส 2-3 รับรู้รายได้ในส่วนหลังจากนั้น - I-Tel หากหักกำไร One-Time ออก กำไรลดลงมาก จะทำอย่างไร: มุ่งเน้นรับงานโครงการช่วยเพิ่มกำไร โดยสรุป Interlink Telecom ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการคว้าโอกาสและรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องการประมูลงานภาครัฐ การขยายตลาด Data Center และการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ